Posts in category: Story
ความรัก กับ ความอดทน

“ความรัก” ดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่มนุษย์มีอยู่มากมายราวกับว่าจะไม่มีวันหมด  แต่สิ่งที่มนุษย์มีอยู่จำกัดจนดูเหมือนคับแคบเห็นแก่ตัว ก็คือ “ความอดทน” ยิ่งรักมากก็ยิ่งต้อง “อดทน” กับปัญหาต่างๆ รอบข้าง เพื่อรักษาความรักนั้นไว้ให้ยั่งยืน แต่ในทิศทางตรงกันข้าม เมื่อใดที่สิ้นรักเมื่อนั้น “ความอดทน” ก็หามีไม่  สิ่งใดที่เคยทนได้ก็กลับแปรเปลี่ยนไป  สิ่งใดที่เคยเห็นดี เห็นชอบ กลับกลายเป็นขวางหูขวางตา  ทั้งๆ ที่อีกฝ่ายหนึ่งกระทำต่อตนอย่างเสมอต้นเสมอปลาย  ท้ายที่สุดเราเป็นฝ่ายทอดทิ้งให้ความรักนั้นต้องจบลง บางครั้งความรักนั้นอาจจบลงทั้งๆ ที่ความรู้สึกรักของเรายังมีอยู่เต็มหัวใจ เพียงแต่การถูกกระทำซ้ำแล้วซ้ำเล่า  จนกระทั่ง “ความอดทน” บอกให้เราต้องไป…ไปทั้งที่ยัง “รัก” เพราะหากรักแล้วต้องเจ็บ ต้องช้ำ ทางเลือกที่ดีที่สุดก็น่าจะหมายถึง “การจากไปในวันนี้เพื่อที่จะเข้มแข็งและลุกขึ้นได้ใหม่ในวันข้างหน้า”  อย่างนั้นมิใช่หรือ “หากรักแล้วต้องร้องไห้ไปตลอดชีวิต ตนขอเลือกที่จะร้องไห้สองสามวันแล้วยิ้มไปตลอดชีวิตที่ดีกว่า” สุดท้ายก็ขั้นอยู่กับตัวเองแล้วล่ะนะ  ว่าจะร้องไห้ไปตลอดชีวิต หรือร้องไห้แค่วันนี้แล้วยิ้มไปตลอดชีวิต  ชีวิตเรา ๆ สามารถเลือกเองได้จริงมั้ย? “คนร่วมทาง” คนเราคบหาร่วมทางกัน มีค่าตรงที่รู้จักกัน  คนเรารู้จักคุ้นเคยกัน มีค่าตรงที่รู้ใจกัน คนเรารู้ใจกันแล้วจากกัน มีค่าตรงที่อยู่ในความทรงจำที่ดีของกัน นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่าจะรักอย่างไรก็อย่าให้ตาบอดเสียล่ะ  เมื่อวันหนึ่งความอดทนบอกเราว่าถึงเวลาแล้ว ก็ควรจะรับฟังไว้บ้างแล้วกัน เราเป็นผู้กำหนดชีวิตของเรา   ขอบคุณแหล่งที่มา ไทยเมดดอทคอม

ใครสักคน

การที่เราจะคบหาหรือรู้จักใครสักคน ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรท่อง ควรจำไว้อยู่เสมอก็คือ “คน” เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบ อยู่ในนั้น อย่าตั้งใจกับคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว อย่าคาดหวังกับ คนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคนอยากให้เป็น อย่าให้เวลากับคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีช่วงเวลาความเป็นส่วนตัว. . . คนเดียว …. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่หลงเหลือ .. ความเป็นตัวของตัวเอง อย่าควบคุมชีวิตคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะมนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัว เพื่อออกมาจากกฎที่ถูกกำหนด อย่าบีบบังคับคนหนึ่งคนมากไปกว่านี้ เพราะถ้าคน ๆ นั้น หลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้ คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันที เธอ. . . ลองมองดูฉันดี ๆ ฉันมีลมหายใจ ไม่ใช่ภาพวาด ที่จะสวยงามอยู่ตลอดเวลา ฉันเองก็เป็น “คน” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มี 2 ด้าน. . . เช่นกัน …อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง… ที่มา : […]

บทความดี ๆ ที่อยากให้อ่านกัน

บทความนี้เขียนขึ้นโดย จอร์จ คอลลิน ซึ่งเป็นดาราตลกที่โด่งดัง เขาเขียนขึ้นในวันที่ 11 กันยายน (ตึกเวิรด์เทรดถล่ม) หลังจากที่ทราบว่าภรรยาของเขาเสียชีวิตในตึกนั้นด้วย…. ทำ..ในสิ่งที่อยากจะทำ อยากให้ทุกคนได้อ่าน ข้อความนี้ มีความหมายดีนะ ทุกวันนี้เรามีตึกสูงขึ้น มีถนนกว้างขึ้นแต่ความอดกลั้นน้อยลง เรามีบ้านใหญ่ขึ้น แต่ครอบครัวของเรากลับเล็กลง เรามียาใหม่ ๆ มากขึ้น แต่สุขภาพกลับแย่ลง เรามีความรักน้อยลง แต่มีความเกลียดมากขึ้น เราไปถึงโลกพระจันทร์มาแล้ว แต่เรากลับพบว่า แค่การข้ามถนนไปทักทายเพื่อนบ้านกลับยากเย็น….. เราพิชิตห้วงอวกาศมาแล้ว แต่แค่ห้วงในหัวใจกลับไม่อาจสัมผัสถึง เรามีรายได้สูงขึ้น แต่ศีลธรรมกลับตกต่ำลง เรามีอาหารดี ๆ มากขึ้นแต่สุขภาพแย่ลง ทุกวันนี้ทุกบ้านมีคนหารายได้ได้ถึง 2 คน แต่การหย่าร้างกลับเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น……จากนี้ไป……ขอให้พวกเรา อย่าเก็บของดี ๆ ไว้โดยอ้างว่าเพื่อโอกาสพิเศษ เพราะทุกวันที่เรายังมีชีวิตอยู่คือ ……โอกาสที่พิเศษสุด……แล้ว จงแสวงหา การหยั่งรู้ จงนั่งตรงระเบียงบ้านเพื่อชื่นชมกับการมีชีวิตอยู่ โดยไม่ใส่ใจกับความ…..อยาก… จงใช้เวลากับครอบครัว เพื่อนฝูงคนที่รักให้มากขึ้น……. กินอาหารให้อร่อย ไปเที่ยวในที่ที่อยากจะไป ชีวิตคือโซ่ห่วงของนาทีแห่งความสุขไม่ใช่เพียงแค่การอยู่ให้รอด เอาแก้วเจียระไนที่มีอยู่มาใช้เสีย น้ำหอมดี ๆ […]

คนที่ดีพอ หรือ คนที่พอดี

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีครูกับลูกศิษย์นั่งอยู่ใต้ต้นไม้ใหญ่ซึ่งใกล้กับสนามหญ้าอันกว้างใหญ่ ทันใดนั้นลูกศิษย์คนหนึ่งก้อถามขึ้นมาว่า ลูกศิษย์:อาจารย์คับผมสงสัยจังเลยว่า เราจะหาคู่แท้เราเจอได้ไงคับ อาจารย์บอกผมหน่อยได้ไหมคับ? อาจารย์:(เงียบไปพักหนึ่งก่อนที่จะตอบ)อืม มันเป็นคำถามที่ยากนะ ในขณะเดียวกันมันก็เป็นคำถามที่ง่ายเหมือนกันนะ ลูกศิษย์:(นั่งคิดอย่างหนัก)อืม?….งงอะไม่เข้าใจ อาจารย์:โอเคงั้นเธอลองมองไปทางนั้นนะตรงนั้นน่ะ มีหญ้าเยอะแยะเลยใช่ไหม เธอลองเดินไปหาหญ้าต้นที่สวยที่สุดแล้วเด็ดมาให้ครูสิ ต้นเดียวเท่านั้นนะแต่ว่าเวลาเธอเดินเนี่ย เธอต้องเดินไปข้างหน้าอย่างเดียวนะห้ามเดินถอยหลัง เข้าใจไหม ลูกศิษย์:ได้เลยครับจานรอสักครูน่ะครับ(ว่าแล้ว ก้อวิ่งตรงไปยังสนามหญ้า) หลังจากนั้นไม่นาน…. ลูกศิษย์:ผมกลับมาแล้วครับจาน อาจารย์:อืม…แต่ทำไมครูไม่เห็นต้นหญ้าสวยๆ ในมือเธอเลยหละ ลูกศิษย์:อ๋อคืองี้ครับจาน ตอนที่ผมเดินไปแล้วผมเจอต้นหญ้าสวยๆเนี่ย ผมก้อก้อคิดว่าเออเดี๋ยวก้อคงเจอต ้นที่สวยกว่านี้ ดังนั้นผมก็เลยไม่เด็ดมันแล้วผมก็เดินไปเรื่อ รู้ตัวอีกทีมันก็สุดสนามหญ้าแล้วครับ จะเดินกลับก้อไม่ได้เพราะจานสั่งห้ามไว้ อาจารย์:นั่นแหละคือสิ่งที่จะเกิดขึ้นในชีวิตจริงหละ เรื่องนี้ต้องการที่จะสื่ออะไรกับเรา ต้นหญ้าก็คือคนที่อยู่รอบๆตัวคุณ ต้นหญ้าที่สวยงามก็คือคนที่คุณชอบ หรือคนที่ดึงดูดคุณนั่นแหละ ทุ่งหญ้าก็คือเวลา เวลาที่คุณจะหาคู่แท้ของคุณอย่ามัวแต่เปรียบเทียบแล้ว คิดว่าคงจะมีที่ดีกว่านี้เพราะถ้าคุณ มัวแต่เปรียบเทียบคุณจะเสียเวลาไปโดยเปล่าประโยชน์ อย่าลืมว่า”เวลาไม่เคยย้อนกลับ” ไม่ใช่แค่ความรักเท่านั้นเรื่องนี้ยังสามารถใช้ได้กับ การหาคนที่จะมาทำงานร่วมกับคุณในชีวิตหรือ แม้กระทั่งงานที่เหมาะสมกับคุณดังนั้น มันจึงเป็นสัจธรรมที่ว่า “จงรักและไขว่คว้าโอกาสที่คุณมีในขณะนี้ อย่ามัวแต่เสียเวลา บางครั้งคนเราก็มีโอกาสเลือกแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้น”

เหรียญในมือ

แด่คนที่ยังไม่มั่นใจในการตัดสินใจบางอย่างในชีวิต เรื่องเล่าธรรมดา เหรียญในมือ เคยสงสัยไหม ว่าทำไมเรามักจะไม่ได้รู้จักกับคนที่เราอยากรู้จัก และคนที่เรารู้จักมักจะไม่มีใครน่าสนใจ หรือไม่ก็ไม่ ใช่สเป๊กเรา… เคยได้ยินเรื่องอยู่เรื่องหนึ่ง… มีผู้ใหญ่เขาเล่นกับเด็ก ผู้ใหญ่กำเหรียญอยู่ในมือ แล้วถามเด็กว่าอยากรู้ไหม ในมือของ ท่านมีอะไร ถ้าอยากรู้ให้เขกพื้น 5 ที เด็กก็เขก แต่ผู้ใหญ่ก็ยังไม่ยอมบอก แล้วก็ถามอีกว่าอยากรู้จริงๆ ไหม ถ้าอยากรู้จริงๆ ให้เขกพื้นอีก 10 ที เด็กก็เขกอีกด้วยความอยากรู้ คราวนี้ผู้ใหญ่แบมือให้ดู เด็กก็ได้พบว่าเป็นแค่เหรียญธรรมดาเหรียญหนึ่งเท่า นั้น ต่อมาผู้ใหญ่กำมืออีก แล้วถามอีกเหมือนเดิมว่าอยากรู้ไหมว่ามือท่านมีอะไร คราวนี้เด็กไม่สนใจ ไม่อยากรู้แล้ว จริงๆ ก็ คือเมื่อเด็กได้รู้แล้วว่าในมือผู้ใหญ่เป็นแค่เหรียญธรรมดาเท่านั้น ไม่มีอะไรพิเศษเลย เขาก็เลยไม่สนใจอีก… นี่แหละ คนเราก็เป็นแบบนี้ ทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มา ไขว่คว้าเพื่อให้ได้รับรู้ เมื่อเราได้รู้แล้วว่ามันคืออะไร มันเป็น ยังไง เราก็ไม่สนใจมันอีก ถามว่าเหรียญในมือเปลี่ยนไปไหม ค่ามันน้อยลงไหม เปล่าเลย ค่าของมันเท่าเดิม ยังคงเป็น เหรียญๆเดิม ทั้งก่อนและหลังที่เราเห็น แต่ความรู้สึกของเราต่างหากล่ะที่เปลี่ยนไป ก็เป็นเพราะความรู้สึกที่เอื้อมไม่ถึง…ไปไม่ถึงนั่นแหละที่ทำให้เราเห็นคุณค่าขอ […]

ชอบ..รัก..หลง

ชอบ…รัก…หลง แตกต่างกันอย่างไร อาการเหล่านี้อาจจะใกล้เคียงกันมาก แต่ก็สามารถพอจะแยกออกได้เป็นส่วน ๆ ดังนี้ 1. “ชอบ” คำนี้ควรเอาไว้หน้าเครื่องหมายของความรักเพราะจะทำให้ความรักปลอดความขัดแย้ง มักจะมีความสุข และสมหวังเพราะ 1.1 ชอบ คือ รสนิยมตรงกัน นิสัยไปด้วยกันได้ เข้าใจกัน คุยกันถูกคอ เรียกว่าชอบพอกัน เช่น การคบเพื่อนเราก็ใช้ความรู้สึกนี้ เราจึงชอบเพื่อนรักเพื่อน มีความสุขพอใจ เมื่อได้อยู่กับเพื่อน แม้จะคบกันมาตั้งแต่วัยเรียน จนถึงทำงาน จนถึงแก่กว่า เพื่อนก็ไม่เคยหมดความหมาย เพราะมาจากรากฐาน ชอบ 1.2 ถ้าคำว่า “ชอบ” นำมาใช้กับคนที่รักของเรา ก็จะเพิ่มดีกรีดีกว่าเพื่อนขึ้นไปอีก เหตุนี้ควรพิสูจน์นิสัยใจคอ จนสามารถชอบเขาได้แล้วค่อยกลายเป็นความรักจึงจะถูกต้องอย่างที่ว่า “จะรักใครควรจะชอบเขามาก่อน แล้วความรักจะยั่งยืน” 1.3 แต่… ส่วนใหญ่ยังไม่ทันชอบเลย ไม่รู้เสียด้วยว่าลูกใครครอบครัวเขาเป็นอย่างไร รู้แต่ชื่อเล่น ชื่อจริง ส่วนนามสกุลเอาไว้บอกทีหลัง เราก็รักไว้ก่อน ชีวิตครอบครัวจึงไม่ประสบผลสำเร็จ ล้มเหลว วันหนึ่ง ๆ แต่งงานเป็นร้อยคู่ แต่ก็หย่ากันวันล่ะ 200 คู่ […]

เพื่อนรัก ผมแอบรักเพื่อน

เกรด 10 ผมนั่งเรียนวิชาภาษาอังกฤษ ผมนั่งมองหญิงสาวข้างๆผม เธอคือคนที่ผมเรียกว่า “เพื่อนรัก” ผมจ้องมองไปที่ผมยาวราวกับเส้นไหมของเธอและอยากให้เธอเป็นของผม แต่เธอไม่ได้คิดกับผมแบบนั้น ผมรู้….หลังเลิกเรียนเธอเดินเข้ามาหาผมเพื่อจะขอยืมโน๊ตที่เธอจดไม่ทันในวันนี้ ผมยื่นโน๊ตให้ไป เธอตอบกลับมาว่า “ขอบใจ” และจูบลงที่แก้มของผม ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น เกรด 11 โทรศัพท์ดังขึ้น ปลายทางของคนที่โทรมาก็คือ “เธอ” นั่นเอง เธอกำลังร้องไห้และพร่ำบ่นไม่ยอมหยุดว่าคนรักของเธอหักอกเธอเช่นไร เธอขอให้ผมไปหาเพราะเธอไม่อยากอยู่คนเดียวและผมก็ไป ผมนั่งอยู่ข้างๆเธอ ที่โซฟา จ้องมองไปยังดวงตาที่อ่อนโยนของเธอและอยากให้เธอเป็นของผม 2ชั่วโมง กับการนั่งดูหนังที่ Drew Barrymoreเล่น กับมันฝรั่งอีก3ถุง เธอก็ตัดสินใจเข้านอน เธอมองมาที่ผมและพูดว่า “ขอบใจนะ” และจูบลงที่แก้มของผม ผมอยากจะบอกเธอให้รู้ว่าผมไม่ต้องการเป็นแค่ “เพื่อน” ผมรักเธอแต่ผมก็อายเกินไปที่จะบอก และผมไม่รู้ว่าทำไมถึงเป็นแบบนั้น ปีสุดท้าย ก่อนวันของงานพรอม(Prom)เธอเดินมาหาผมที่ล็อกเกอร์ “คู่เดทของฉันมันห่วย” เธอพูดขึ้น เขาจะไม่ยอมไปงานพรอมกับเธอ และผมก็ยังไม่มีคู่เดท ตอนสมัยอยู่เกรด 7 เราเคยสัญญากันว่าถ้าคนใดคนหนึ่งยังไม่มีคู่เดท เราจะไปงานพรอมด้วยกันในฐานะ “เพื่อนรัก” และเราก็ตกลงเป็นคู่เดทในงานพรอมด้วยกัน คืนวันงานหลังจากเลิกงานแล้ว ผมยืนอยู่ที่บันไดหน้าบ้านของเธอ […]

ข้อคิดจากถังน้ำสองใบ

ชายจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่าเพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร ถังน้ำใบหนึ่งมีรอยแตก ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง…แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล จากลำธารกลับสู่บ้าน….จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ดำเนินมาเป็นเวลา 2 ปีเต็มที่คนตักน้ำสามารถตักน้ำ กลับมาบ้านได้หนึ่งถังครึ่ง….ซึ่งแน่นอนว่าถังน้ำใบที่ไม่มีตำหนิจะรู้สึกภาคภูมิใจ ในผลงานเป็นอย่างยิ่ง …ขณะเดียวกันถังน้ำที่มีรอยแตกก็รู้สึก อับอายต่อความบกพร่องของตัวเอง มันรู้สึกโศกเศร้ากับการที่มันสามารถทำหน้าที่ได้เพียงครึ่งเดียวของจุดประสงค์ ที่มันถูกสร้างขึ้นมา หลังจากเวลา 2 ปี… ที่ถังน้ำที่มีรอยแตกมองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า “ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะ รอยแตกที่ด้านข้างของตัวข้าที่ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมาตลอดเส้นทาง ที่กลับไปยังบ้านของท่าน” คนตักน้ำตอบว่า “เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบานอยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า… แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่งเพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่…. ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้ลงข้างทางเดินด้านของเจ้าและทุกวันที่เราเดินกลับ… เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเล็ดพันธุ์เหล่านั้น เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้สวย ๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว..เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้” คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่องที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง… แต่รอยตำหนิและข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้…. สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคนในแบบที่เขาเป็น.. และมองหาสิ่งที่ดีที่สุดในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง มองโลกหลาย ๆ ด้าน คนเราไม่ได้มีแต่ข้อเสียเท่านั้น

เค้าว่ากันว่า

1. เค้าว่ากันว่า . . . อ่านหนังสือสักเล่มต้องใช้เวลา เช่นเดียวกัน เราคงไม่รู้จักใครสักคนได้ดีตั้งแต่วันแรก 2. เค้าว่ากันว่า . . . อย่าตัดสินหนังสือดี ๆ แค่ปกมันสวย เช่นเดียวกัน คนหน้าตาดี อาจจะไม่ใช่คนดีเสมอไป 3. เค้าว่ากันว่า . . . คนที่ไม่ชอบอ่านหนังสือเลย ก็ใช่ว่าจะมีหนังสือเล่มแรกในชีวิตที่ชอบไม่ได้ เช่นเดียวกัน คนที่เราไม่คิดจะอยากรู้จัก อาจจะเป็นคนที่ดีที่สุดในชีวิตเราก็ได้ 4. เค้าว่ากันว่า . . . การชอบหนังสือสักเล่ม ไม่ได้หมายความว่า หนังสือเล่มนั้น เนื้อหาดีทุกหน้า เช่นเดียวกัน การรู้สึกดีกับใครสักคน ไม่จำเป็นว่าเขาต้องไม่มีข้อเสียอะไรเลย 5. เค้าว่ากันว่า . . . อย่ารู้สึกเสียดายเวลา กับการอ่านหนังสือบางเล่มจนจบ แล้วพบว่าเป็นหนังสือที่ไม่ชอบ เช่นเดียวกัน จงรู้สึกดี กับการใช้เวลากับใครสักคนหนึ่งอย่างเต็มที่ แม้ว่าวันหนึ่งจะรู้ว่า เขาคนนั้นไม่ใช่เลยสักนิด เพราะอย่างน้อย […]

ความฝัน…บอกอะไรเรา

การฝัน คือ การนึกเห็นเป็นเรื่องราวในขณะหลับ ขณะฝันจะรู้สึกว่าสิ่งที่เห็น หรือสัมผัสนั้น เหมือนจริงหรือเกินจริง เราทุกคนต่างเคยฝันกันทั่วหน้า ในระหว่างการหลับตามธรรมดาแต่ละคืน คนเราฝันกันคืนละ 4-5 เรื่อง จนถึงนับครั้งไม่ถ้วน เมื่อรวมตลอดชั่วชีวิตแล้ว อาจรวมได้เป็นแสนครั้ง เหตุการณ์ในความฝันอาจจะดูยาวนานหลายชั่วโมง หรืออาจยาวเป็นวันๆ แต่จากการวิจัยพบว่าความฝันส่วนใหญ่จะกินเวลาเพียง 2-3 วินาที ไปจนถึงนานที่สุดไม่เกิน 40 นาที โดยประมาณ ในความฝันจะอัดแน่นไปด้วยเรื่องราวต่างๆ มากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของตัวเราเอง ชีวิตของเรา ความสามารถของเรา และความสัมพันธ์ของเรากับคนอื่นๆ จากการศึกษาวิจัยเรื่องการหลับของมนุษย์โดยใช้เครื่องตรวจคลื่นสมอง (Electroencephalography – EEG) บันทึกคลื่นสมองที่เกิดขึ้นระหว่างหลับ พบว่า คลื่นสมองในขณะหลับมีลักษณะแตกต่างกัน ซึ่งอาจแบ่งการหลับได้เป็น 4 ระยะ คือ ระยะงัวเงีย ระยะหลับตื้น ระยะหลับสนิทหรือหลับลึก และระยะก่อนตื่น การศึกษาพบว่า มีปรากฏการณ์อย่างหนึ่งเกิดขึ้นในช่วงรอยต่อระหว่างหลับตื้นกับหลับลึก เป็นการสั่นไหวอย่างเร็วของลูกตา เรียกว่า REM (Rapid Eye Movement) บางคนจึงแบ่งการหลับออกเป็น 2 ชนิด […]