Posts in category: Story
ทำงานอย่างชาญฉลาด

ครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีหมู่บ้านเล็กๆแห่งหนึ่ง เป็นหมู่บ้านที่น่าอยู่ แต่น่าเสียดายที่มีปัญหาอยู่ว่าหมู่บ้านจะขาดน้ำหากฝนไม่ตก เพื่อแก้ ปัญหานี้ กรรมการหมู่บ้านจึงประกาศหาคนรับจ้างขนส่งน้ำมาให้คนใน หมู่บ้านใช้ ชายหนุ่มสองคนเสนอตัวเข้ารับงานนี้ กรรมการหมู่บ้านตกลง ทำสัญญากับคนทั้งสอง โดยหวังว่าเขาสองคนจะได้แข่งขันกันทำงานและ รักษาราคาให้อยู่ในระดับที่น่าพอใจ ทันทีที่ได้รับการว่าจ้าง เอ็ด…ชายคนแรกรีบวิ่งไปซื้อกระป๋องตักน้ำมา 2 ใบ แล้วรีบตักน้ำจากลำธารมาใส่ถังคอนกรีตให้คนในหมู่บ้านไว้ใช้ในทันที ทุกๆ เช้าเขาจะรีบตื่นก่อนคนอื่นๆ เพื่อดูแลให้มีน้ำในถังเพียงพอสำหรับคนในหมู่บ้าน แม้งานจะหนักแต่เอ็ดก็มีความสุข เพราะมีเพียงเขาและชายอีกคนหนึ่งเท่านั้นที่ได้งานนี้ ชายคนที่สอง บิล…หายตัวไปเป็นเดือน ซึ่งทำให้เอ็ดดีใจมากเพราะไม่ต้อง แบ่งงานให้ใคร และได้รับรายได้เต็มๆ เพียงลำพัง แทนที่จะวิ่งไปซื้อถังน้ำ บิลเตรียมเขียนแผนธุรกิจ จัดตั้งบริษัทหาผู้ร่วมทุน จ้างผู้จัดการ และกลับมาพร้อมทีมงานก่อสร้างใน 6 เดือนต่อมา เขาใช้เวลาหนึ่งปี สร้างท่อน้ำสแตนเลสขนาดใหญ่ เชื่อมต่อระหว่างลำธารเข้าหมู่บ้าน ในงานวันเปิดท่อน้ำ บิลประกาศว่าน้ำของเขาสะอาดกว่าน้ำของเอ็ด เพราะบิลรู้ว่ามีคนบ่นเรื่องคุณภาพน้ำ ที่เอ็ดขนมาเสมอๆ นอกจากนี้บิลยังแจ้งว่าเขาสามารถทำให้ทุกคนมีน้ำ ใช้ตลอด24ช.ม. และตลอดเจ็ดวันอีกด้วย ขณะที่เอ็ดส่งน้ำให้หมู่บ้านได้เฉพาะวันทำ การเพราะเขาหยุดทำงานวันเสาร์อาทิตย์ สุดท้ายบิลประกาศว่าเขาจะเก็บค่าน้ำถูกกว่าเอ็ด ร้อยละ 75 โดยที่ทุกคนจะได้นำคุณภาพดีกว่า สิ้นเสียงบิลทุกคนปรี่กันเข้าไปที่ก็อกน้ำจากท่อที่บิลสร้าง เอ็ดพยายามที่จะแข่งขันกับบิลด้วยการลดราคาลงร้อยละ 75 […]

บทลงโทษ

วันหนึ่งเมื่อยังเด็ก แอนดี้น้องชายของฉันนั่งอยู่ที่มุมห้องนั่งเล่น ในมือข้างหนึ่งมีปากกาหนึ่งด้าม ขณะที่ในมืออีกข้างหนึ่งก็ถือหนังสือสะสมราคาแพงของพ่อ แอนดี้คงจะปีนขึ้นไปหยิบจากบนชั้นหนังสือ เมื่อพ่อเดินเข้ามาในห้อง แอนดี้ก็ก้มหน้างุดและทำท่ากระสับกระส่าย เขารู้ตัวดีเชียวละว่ากำลังทำผิด แม้จากระยะไกล ฉันก็เห็นรอยขีดเขียนเปรอะไปทั่วบนหน้าหนังสือของพ่อ และตอนนี้แอนดี้ก็กำลังจ้องมองพ่อตาโตด้วยความหวาดหวั่น รอคอยที่จะถูกทำโทษ พ่อหยิบหนังสือขึ้นมามอง แล้วก็ทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้โดยไม่พูดอะไรสักคำ หนังสือทุกเล่มมีความหมายต่อพ่อมาก หนังสือคือความรู้ และหนังสือเล่มนี้ก็เป็นหนังสือสะสมราคาแพง แต่ในขณะเดียวกันท่านก็เป็นพ่อที่รักลูกมาก สิ่งที่พ่อทำในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านั้นยอดเยี่ยมมาก แทนที่ท่านจะลงโทษหรือดุแอนดี้ หรือแม้แต่ตำหนิความซุกซน พ่อกลับนั่งลง หยิบปากกาในมือแอนดี้ขึ้นมาถือไว้ แล้วก็เขียนอะไรบางอย่างลงในหน้าหนังสือสือสะสมราคาแพงนั่นเสียเอง พ่อเขียนที่ข้างๆ ลายเส้นที่แอนดี้ขีดว่า “ภาษาของแอนดี้ เมื่ออายุสองขวบ ต่อไปนี้ ไม่ว่าครั้งไหนที่พ่อหยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมาเปิด พ่อก็จะเห็นใบหน้าน้อยๆ ที่น่ารักและดวงตาที่สดใสของลูก และจะขอบคุณพระเจ้าที่ประทานเด็กน้อยคนนี้มาให้ขีดเขียนบนหนังสือแสนหวงของพ่อ ลูกทำให้หนังสือเล่มนี้ของพ่อมีความหมาย เหมือนกับที่พี่ๆ ของลูกนำความหมายมาสู่ชีวิตของพ่อเหมือนกัน” “ว้าว…” ฉันคิด นี่หรือคือการลงโทษของพ่อ? นานๆ ครั้งฉันก็จะหยิบหนังสือที่สะสมไว้มาให้ลูกหลานของฉันขีดเขียนเล่น ทุกครั้งที่มองดูลายมือหยุกหยิกเหล่านั้น ฉันก็จะนึกถึงสิ่งที่พ่อทำในวันนั้น พ่อได้สอนให้ฉันรู้ว่า…’อะไรกันแน่ที่มีค่าต่อชีวิตของเราอย่างแท้จริง’ ซึ่งนั่นก็คือ ‘คนที่เรารัก ไม่ใช่วัตถุสิ่งของ’ ลองมองย้อนดูตัวคุณเองนะคะ ในแต่ละวัน เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้อยู่เสมอ เช่นคุณนั่งกินข้าวกับภรรยาอยู่ที่ร้านอาหาร เธอหวังดีอยากจะเทซอสให้คุณ แต่มันกลับหกไปเลอะเสื้อตัวเก่งของคุณ และคุณก็ทำสีหน้าที่ตำหนิเธอและคำพูดที่บอกว่า “เดี๋ยวผมเทเองก็ได้” […]

หนทางแห่งความรัก

บนฟ้ามีดวงดาวมากมายนั้นก็เพื่อให้คู่รักนอนนับดาวด้วยกันและการที่ลมหนาว พัดผ่านมาเพื่อพิสูจน์ความอบอุ่นในใจของคนทั้งสอง …….. ฉันกำลังเดินทางตามหาสิ่งนั้นสิ่งที่เรียกกันว่า “ความรัก” ฉันตามหามันมานานเหลือเกิน เกือบครึ่งชีวิตแล้วสินะที่หามันแต่ก็ยังคงไม่เจอสักที อยากหาใครสักคนที่เข้าใจความหมายของความรู้สึกเหล่านั้น ดังนั้นฉันจึงเริ่มออกเดินทางบนเส้นทาง แห่งความโหยหาที่มีทั้งความสุข ความเศร้า และความเหงา ทำไมถึงไม่เจอสักทีผ่านมาหลายสิ่งมากมายมีทั้งใช่และไม่ใช่ เมื่อเราใช่แต่อีกฝ่ายกลับว่าไม่ใช่ แต่ใยเวลาเราว่าไม่ใช่ทำไมอีกฝ่ายถึงว่าใช่ สิ่งนี้นี่เองที่ทำให้เราอยากรู้ว่าความรัก คืออะไรกันแน่ บ้างก็ว่าความรักคือการให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน แต่ฉันคิดว่าไม่ใช่เพราะทุกคนเมื่อให้แล้วก็ต้องหวังสิ่งตอบแทน แต่สิ่งตอบแทนของความรักคือความสุขที่ได้ทำเพื่อใครสักคนที่เรารัก บนหนทางนี้ฉันได้เรียนรู้อีกอย่างว่าความรักไม่ใช่การแสดง ความเป็นเจ้าของ เราต้องรักในสิ่งที่เป็นไม่ใช่รักในสิ่งที่อยากให้เป็น ฉันได้พานพบผู้คนมากมายที่หลงทางไปกับสิ่งนี้ การแสดง ความเป็นเจ้าของทำให้เขาต้องแยกจากกัน จงตระหนักไว้ว่าทุกคนมีชีวิตเป็นของตนเองและคงไม่มีใครอยากเอาชีวิตของตนเอง ไปผูกติดกับใคร คนเหล่านั้นต้องการคนเคียงข้างก้าวไปพร้อมกันบนเส้นทางแห่งชีวิตด้วยความเข้าใจมีคนคอยให้กำลังใจเป็น เพื่อนคู่คิดยามไม่มีใคร หากความเข้าใจกับความรักเดินไปด้วยกันบนหนทางแห่งนี้จะราบรื่นและคงจะไม่มีใครเจ็บเพราะมันอีก วันนี้ฉันได้เดินทางมาถึงจุดจุดหนึ่งบนเส้นทางที่ยาวไกลนี้ ฉันพบแล้วคนที่จะเคียงข้างยามมีดาวเต็มท้องฟ้า อ้อมแขนที่อบอุ่นยาม ลมหนาวพัดผ่าน คนที่ฉันพร้อมจะให้อย่างมีความสุข คนที่เฝ้ารอที่จะก้าวไปหาฝันพร้อมกัน บนหนทางที่เงียบเหงาแห่งนี้ฉันคงจะ ไม่เงียบเหงาอีกต่อไป ฉันหวังว่านี่คงเป็นปลายทางของหนทางแห่งนี้ที่เค้าเรียกกันว่า “หนทางแห่งความรัก”

50 ข้อคิด มุมมองเพื่อความเข้าใจในชีวิต

1. เมื่อเด็กกำลังเติบโตเป็นวัยรุ่น มีความต้องการเป็นตัวของตัวเองสูง ผู้ใหญ่ที่ไม่เข้าใจและใจแคบมักจะมองว่าเด็กดื้อ 2. คนเราจิตตกได้เป็นครั้งคราว อาจทำอะไรที่ไม่เหมาะสมได้ การรู้ตัวเองและให้อภัยตัวเอง จึงเป็นสิ่งสำคัญ 3. คนอกหักไม่อาจตัดความโศกเศร้าได้ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียว เวลาเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการเยียวยาความรู้สึกดังกล่าว 4. ให้เคารพแนวคิดของผู้อื่นบ้าง เสมือนหนึ่งเป็นอีกแนวคิดหนึ่งที่ต่างไปจากเราเท่านั้นเอง 5. ตนเองเสียเมื่อไหร่ที่คิดดี คิดชอบเป็นอยู่คนเดียว 6. ทำไปเพราะไม่รู้ ให้อภัยกันได้ รู้แล้วยังทำ คือ ความดื้อ 7. ก่อนที่จะว่ากล่าวถึงนิสัยไม่ดีของลูกนั้น ให้มองตัวพ่อแม่เองก่อนด้วยว่า เรามีส่วนผลักดันให้เขาเป็นเช่นนั้นด้วยหรือเปล่า 8. ความทุกข์ของมนุษย์ 100% เกิดจากการพยายามฝืนความจริงของธรรมชาติ 9. หากต้องอยู่กับคนที่ไม่เกรงใจกันเลย พูดกับเขาให้น้อยลง เล่นกับเขาให้น้อยลง 10. หากอยากได้อะไร ก็ควรเสียอะไรบ้าง 11. ถ้าเราปล่อยให้โลก เร่งตัวเรา ควบคุมตัวเรา จนเราขาดอิสระภาพ เราก็จะทุกข์ ถ้าเราจะเร่งโลก ควบคุมโลกให้โลกนี้เป็นไปตามความต้องการของเรา เราก็ทุกข์เช่นกัน 12. ความฉลาดอาจหลอกคนได้ ความจริงใจต่างหากที่จะชนะใจคน 13. การให้ความสำคัญกับกฎเกณฑ์มากไป ทำให้เราลืมธรรมชาติ ลืมความเป็นจริงได้ง่าย […]

เกาะแห่งความรู้สึก

กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีเกาะแห่งหนึ่งซึ่งรวบรวมความรู้สึกทั้งหมดอาศัยอยู่ด้วยกัน ความสุข ความเศร้า ความรู้ และอื่นๆ รวมทั้งความรัก วันหนึ่งมีประกาศไปยังความรู้สึกทั้งหมดว่าเกาะกำลังจะจม ดังนั้น ทั้งหมดจึงได้เตรียมเรือเพื่อที่จะหนีออกจากเกาะ ความรักเท่านั้นที่ตัดสินใจอยู่บนเกาะความรักต้องการที่จะอยู่จนกระทั่งวินาทีสุดท้าย เมื่อเกาะเกือบจะจมแล้ว ความรักจึงตัดสินใจขอความช่วยเหลือ… ความรวยแล่นเรือผ่าน ความรวยตอบว่า “ไม่ได้หรอก. ฉันรับเธอไม่ได้หรอกเพราะเรือฉันน่ะเต็มไปด้วยทองและเงินแล้ว มันไม่มีที่ให้คุณ ” ความรักตัดสินใจจะถามความเห็นแก่ตัวซึ่งผ่านมาเหมือนกันด้วย “ความเห็นแก่ตัวช่วยฉันด้วย ” “ฉันช่วยคุณไม่ได้หรอกความรัก คุณน่ะทั้งเปียกอาจจะทำให้เรือฉันเปียกด้วย ” ความเศร้าได้พายเรือใกล้เข้ามาความรักก็ได้เอ่ยขอความช่วยเหลืออีก “ความเศร้าอนุญาตให้ฉันขึ้นเรือคุณนะ ” “โอ้ความรักฉันกำลังเศร้ามากเลยฉันต้องการอยู่คนเดียวขอโทษนะ ” ความสุขได้ผ่านความรักไปเหมือนกัน แต่เขาไม่ได้ยินแม้เสียงร้องเรียกขอความช่วยเหลือของความรักเพราะมัวแต่กำลังสุข ทันใดนั้น มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมา “มานี่ความรักฉันจะรับคุณไปเอง ” เสียงนั้นเป็นของคนแก่คนหนึ่ง ความรักรู้สึกขอบคุณและดีใจเป็นอย่างมาก จนลืมถามชื่อว่าใครคือผู้ใจดีผู้นั้น เมื่อพวกเขามาถึงแผ่นดินที่แห้ง คนแก่ก็จากไปตามทางของเขา ความรักนึกขึ้นมาได้ว่าลืมถามชื่อชายแก่คนนั้น ความรักจึงถามความรู้และคนแก่คนอื่น ๆ …. “ใครเหรอที่เป็นคนช่วยฉัน ” ความรู้ตอบอย่างภาคภูมใจในความรอบรู้ของตนเองว่า ” เวลา ” ความรักถามต่อว่า “แต่ทำไมเวลาถึงช่วยฉันละ ” ความรู้ยิ้มในความรอบรู้ของตัวเองแล้วตอบความรักว่า […]

สัญญานที่บอกว่าคุณ กำลังตกหลุมรัก

ถ้าหากคุณออกมาจากงานเลี้ยงที่วุ่นวาย และอยากเดินไปกับเธอ 2 คน คุณตกหลุมรักเธอ พอคุณอยู่กับเธอ.คุณแกล้งทำเป็นไม่สนใจ แต่พอเธอไม่อยู่ คุณก็มองหา… คุณตกหลุมรักเธอ แม้จะมีคนอื่นที่ทำให้คุณหัวเราะอยู่ สายตาคุณก๊มองอยู่ที่เธอ คุณตกหลุมรักเธอ พอดูรูปหมู่ คุณมองหาเธอ(ดูว่าใครอยู่ข้างเธอ ,เธอดูเป็นไง)ก่อนดูรูปตัวเอง …เมือนั้น … คุณตกหลุมรักเธอ คุณต้องเอาหูโทรศัพท์ออก เพราะเรียนหนัก แต่ทำไม่ได้ถ้าหากเธอจะโทรมา คุณตกหลุมรักเธอ ถ้าคุณตื่นเต้นกับemailสั้นๆที่เธอส่งมา มากกว่าemailยาวๆของคนอื่น…ล่ะก็ .คุณตกหลุมรักเธอ ต้องคอยบอกตัวเองว่า “เธอเป็นแค่เพื่อน” แต่ก็รู้ดีว่า ห้ามตัวเองที่จะคิดถึงเธอไม่ได้ คุณตกหลุมรักเธอ และถ้าคุณอ่านข้อความนี้ แล้วมีใครผ่านเข้ามาในความคิด… ………………………………………….. คุณตกหลุมรักเธอจริงๆแล้วแหละ ป.ล. กำลังคิดถึงใครกันอยู่ล่ะ

สิ่งมหัศจรรย์ของความรัก

คนที่ใช่ ไม่ได้มีเพียงคนเดียว ถ้าคุณคิดว่าคุณทำคู่แท้หลุดมือไปแล้วล่ะก็ อย่าเสียใจไปเลย โลกนี้เต็มไปด้วยผู้ชายที่มีแนวโน้มจะเป็นคนที่ใช่เยอะแยะ “เหตุผลที่ผู้หญิงมากมายทุกข์ใจจากการเดทก็เพราะพวกเธอเชื่อว่าโลกนี้มีผู้ชายแค่คนเดียวที่ถูกสร้างมาเพื่อเธอ” แต่นั่นไม่จริงหรอก ถึงเราจะกำหนดสเป็คและคาดหวังว่าเราต้องการอะไรและผู้ชายแบบไหน แต่ถ้ามีใครสักคนผ่านเข้ามาที่ใกล้เคียงกับมาตรฐาน กฎเกณฑ์ที่เข้มงวดที่เราวางไว้ก็จะกระเด็นออกนอกหน้าต่างไปเอง รักแรกพบมีจริง มันเป็นไปได้ที่เราจะรักใครซักคนที่เพิ่งเจอแค่แป๊ปเดียว “ทางชีวภาพสัตว์ต้องหาคู่ให้ได้ก่อนฤดูผสมพันธุ์สิ้นสุด ก็เลยต้องถูกตาต้องใจกันอย่างเร็ว” ในเมื่อสมองเราก็ส่งสารแบบนั้น เราก็เลยสามารถตอบโต้ตัวกระตุ้นอย่างความชอบ ภาษากายและความเข้ากันได้อย่างรวดเร็ว อยู่ห่างๆ กันบ้างก็ดี ในขณะที่คุณกำลังคลั่งรักหัวปักหัวปำ สิ่งที่คุณอยากทำก็คืออยากเอาอกเอาใจเขา และอยากเกาะติดเขาแจได้ทั้งวันทั้งคืน “การอยู่ห่างกันทำให้สารเคมีแห่งความรักอย่างโดพามีนและนอเรฟฟินเนฟฟิลในสมองเพิ่มผลผลิต” ดังนั้น ไม่เป็นไรหรอกที่จะไม่นัดเจอเขาคืนวันอังคาร ถ้าคุณจะต้องเจอเขาวันพุธ มองแบบนี้ซิ มันจะทำให้การพบกันตอนสุดสัปดาห์ของคุณเร่าร้อนกว่าเดิม ความรักไม่ใช่เรื่องของอารมณ์ ความรักกระตุ้นสมองส่วนที่สัมพันธ์กับการจดจ่อไปที่แรงจูงใจ และแรงผลักดันเพื่อจะชนะรางวัล เช่นอาหารหรือเซ็กซ์ ซึ่งตรงข้ามกับสมองส่วนความรู้สึก เช่นความสุขหรือความเศร้า ตอนนี้เราก็รู้แล้วว่าทำไมเราถึงว้าวุ่นใจเป็นพิเศษ สำหรับคนที่ทำให้ชีพจรเราเต้นรัว ความรักเป็นสิ่งเสพติด เมื่อเราดูรูปคนรักเก่า ส่วนของสมองที่เกี่ยวข้องกับการเสพติดแอคทีฟเป็นพิเศษเลย โดพามีนถูกหลั่งออกมา แล้วเราก็รู้สึกเคลิบเคลิ้มจิตใจหวั่นไหวล่องลอยอย่างแรงเหมือนใช้ยาเสพติดเลย นั่นคือสาเหตุที่เราโหยหาหวานใจเราไง ผู้ชายรักง่ายกว่าผู้หญิง เรามีแนวโน้มจะคิดว่าผู้หญิงรีบร้อนที่จะมีรัก แต่ความจริงผู้ชายเป็นอย่างนั้นมากกว่า “สมองผู้ชายติดตั้งสัญญาณเกี่ยวกับการมองเห็นมากกว่า” ดังนั้น เมื่อหนุ่มเห็นสาวที่ทำให้เครื่องเขาติด ก็จะมีแรงไปกระตุ้นสมองส่วนพิเศษที่มีเฉพาะในเพศชาย ที่มา : tamdee.net

เกมที่มีแต่แพ้

ผมเป็นคนหนึ่งล่ะที่เล่นเทนนิสโดยการปักหลักอยู่ที่เส้นฐานหลังสุดของสนามเสมอ และหวดลูกสุดแรงเกิด แต่มันกลับเป็นวิธีที่ทำให้ผมแพ้ทุกทีซิน่า วันหนึ่งน้องชายผมจึงได้เสนอให้ผมลองยืนเล่นในตำแหน่งใกล้ตาข่ายมากขึ้น และออกแรงท่าทางแข็งขันกว่าที่เคย… แน่นอนล่ะ ผมปฏิเสธ เพราะว่าผมเล่นใกล้ตาข่ายไม่เก่งเลย “โธ่ พี่ก็” น้องผมพูด “ไม่มีอะไรเสียแล้วน่า รู้ไหม…สิ่งที่สำคัญที่สุดในเกมกีฬาก็คือเลิกเล่นเกมที่มีแต่แพ้ซะ ถึงพี่จะไม่เก่งการตีใกล้ตาข่าย…แต่การตีไกลตาข่ายของพี่ก็แพ้ไม่เป็นท่าทุกที พี่จะเล่นแบบเดิมซ้ำๆ อยู่ทำไม่เล่า” ช่างเป็นคำแนะนำที่เต็มไปด้วยเหตุผลเสียนี่กระไร ผมจึงได้ลองเปลี่ยนวิธีการเล่นใหม่ น่าแปลกที่ฝีมือผมพัฒนาขึ้น เกมระหว่างผมกับน้องก็ตื่นเต้นและสนุกสนานขึ้นกว่าเดิมอีกอักโข เมื่อผมมองย้อนกลับไปในหน้าที่การงานของตัวเอง ผมเพิ่งได้คิดว่า “การรู้จักเลิกเล่นเกมที่มีแต่แพ้” ไม่ได้ไว้ใช้แค่ในเกมกีฬาแล้วล่ะ หากในชีวิตประจำวันก็สำคัญไม่น้อย หลายครั้งที่คนไข้พากันมาหาผมเพราะเกิดจากปัญหาที่พวกเค้าทำตัวเองทั้งนั้น เช่น รู้สึกหัวใจผิดปกติ จากการกินอาหารแบบใดแบบหนึ่ง เมื่อรู้ตัวแล้วว่าการกินแบบนั้นทำให้รู้สึกไม่สบาย แต่ก็ยังคงกินต่อไป จากการวินิจฉัยของผม ผมขอเรียกพฤติกรรมแบบนี้ว่า “เป็นเกมที่มีแต่แพ้” พวกเราทุกคนต่างก็กำลังเล่นเกมที่มีแต่แพ้นี้ทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นจากการกินอาหารที่ไม่ถูกสุขลักษณะ… การอดนอน… การทำงานติดต่อกันเป็นเวลานานโดยไม่พัก…หรือการออกกำลังที่ไม่เพียงพอ ….การไม่รู้จักบริหารเวลา…ก็เป็นเกมส์ชนิดหนึ่ง ที่เห็นๆ อยู่ว่ามีแต่แพ้ เช่น การผลัดวันประกันพรุ่ง แล้วต้องมาเร่งๆ งาน เพื่อให้ทันการประชุมที่กำลังจะมีขึ้นในอีกไม่กี่นาที หรือในทางกลับกัน การทำงานมากเกินไปจนเวลาในแต่ละวันไม่เคยพอเพียง ก็เป็นการทำงานที่ก่อให้เกิดความเครียดทั้งนั้น น่าแปลกที่ผู้คนต่างก็แบกรับเอาพฤติกรรมแบบนี้ไว้กับตัวทั้งนั้น ผมขอแบ่งประเภทผู้คนที่กำลังเป็นผู้แพ้เป็น : … – พวกสมบูรณ์แบบ […]

เรื่อง ช่างไม้

เรื่องก็มีอยู่ว่า มีช่างไม้สูงอายุคนหนึ่งต้องการจะเกษียณตัวเอง ก็เลยบอกความต้องการดังกล่าวกับนายจ้างเกี่ยวความต้องการที่จะเกษียณ และใช้ชีวิตที่หรูหรากับภรรยา ซึ่งช่างไม้ก็บอกว่าเขาอาจจะเสียดายค่าจ้างที่จะได้รับ แต่เขาก็ต้องการที่จะเกษียณ นายจ้างก็บ่นเสียดายที่จะต้องสูญเสียช่างฝีมือดีไป แต่ก็ได้ขอร้องให้ช่างคนนี้ช่วยสร้างบ้านให้อีกสัก 1 หลัง ช่างไม้ผู้นั้นก็ตอบตกลง ครั้นพอบ้านสร้างเสร็จ ก็พบว่ามันไม่ใช่งานที่เป็นฝีมือของช่างคนนี้เลยแม้แต่น้อย งานที่ออกมาก็เป็นงานแค่เปลือกนอก(จอมปลอม) วัตถุดิบที่ใช้ก็ด้อยคุณภาพ มันช่างเป็นการจบชีวิตช่างฝีมือดีที่ไม่สวยหรูเลย และเมื่อนายจ้างสำรวจงานชิ้นนี้ของช่างผู้นี้ นายจ้างก็ได้ยื่นกุญแจให้แล้วบอกกับช่างไม้ว่า “นี่คือบ้านของคุณ ……. ผมขอมอบให้คุณเป็นของขวัญ” เมื่อช่างไม้ได้ยินเช่นนั้น ถึงกับตกใจและอุทานกับตัวเองว่า น่าละอายจริงๆ ถ้าเขารู้สักนิดว่ากำลังสร้างบ้านของตัวเองอยู่ เขาก็คงตั้งใจสร้างให้ดีกว่านี้ เช่นเดียวกับพวกเราที่กำลังสร้างชีวิตของตัวเราเองด้วยการสั่งสมสิ่งต่างๆวันละเล็กวันละน้อย และบ่อยครั้งที่เราไม่ได้ใช้ความพยายามอย่างที่สุดในการสรรสร้างชีวิตของตนเอง และเมื่อวันๆ หนึ่งมาถึงเราก็จะตระหนักว่าเราต้องใช้ชีวิตอยู่กับ ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราเป็นผู้สร้างขึ้นมาทั้งหมด และเมื่อถึงวันนั้นเรามักจะพูดเสมอว่าถ้าเราสามารถกลับไปได้ เราจะทำทุกอย่างให้ดีขึ้น แต่ความจริงหาได้เป็นเช่นนั้นไม่ ….. เพราะพวกเราทุกคนก็คือช่างไม้ ในทุกๆวัน พวกเรากำลังตอกตะปู, ปูกระดาน หรือแม้แตกำลังเลือกกำแพงให้กับชีวิตตัวเอง ดังคำพูดที่ว่า “ชีวิตก็คือสิ่งที่เราสร้างด้วยตัวเราเอง” ทัศนคติ และ ทางเลือกต่างที่พวกเราได้เลือกกันในวันนี้ ก็เสมือนกับการสร้าง”บ้าน” (ชีวิต) ที่เราจะต้องอยู่กับมันให้กับตัวเอง ……. ดังนั้นจงสร้างบ้านด้วยความฉลาด จงจำไว้ว่า “จงทำงานเหมือนกับว่าเราไม่ต้องการเงินทอง จงรักราวกับว่าเราไม่เคยเจ็บ จงเต้น(ร่าเริง)ราวกับว่าไม่มีใครจ้องมองอยู่”

โปรแกรมความรัก

ช่างเทคนิค : ฮัลโหล สวัสดีครับ มีอะไรให้รับใช้ครับ ลูกค้า : ดิฉันได้นั่งนึกดูแล้วคิดว่า โปรแกรมความรักนี่ก็น่าสนใจ ดีนะคะ คุณช่วยกรุณาแนะนำดิฉันหน่อยได้ไหมคะว่าจะลงโปรแกรมนี้ยังไง ช่างเทคนิค : ด้วยความยินดีครับ ไม่ทราบว่าพร้อมที่จะลงโปรแกรม หรือยังครับ ลูกค้า : อืม… ไม่รู้เหมือนกันคะ บอกตามตรงว่าดิฉันไม่ค่อยรู้เรื่องคอมพิวเตอร์เท่าไร แต่ดิฉันคิดว่าน่าจะพร้อมคะ ไม่ทราบว่าต้องเริ่มทำยังไงบ้างคะ ช่างเทคนิค : อันดับแรกเลยคุณต้องเปิดใจคุณก่อนครับ ลูกค้า : ไม่มีปัญหาคะ แต่ว่าตอนนี้ฉันเปิดใช้โปรแกรมอื่นอยู่ด้วย ไม่ทราบว่าจะมีปัญหาในการติดตั้งไหมคะถ้าฉันไม่ได้ปิดโปรแกรมพวกนี้ ช่างเทคนิค : ไม่ทราบว่าโปรแกรมอะไรหรือครับ ที่กำลังเปิดใช้งานอยู่ ลูกค้า : เดี๋ยวขอดิฉันดูนิดนึงนะคะ อืม… ก็มีโปรแกรม “ความเจ็บปวดในอดีต”, “การไม่เห็นคุณค่าของตัวเอง”, “ความริษยา”, “ความขุ่นเคือง” และก็ “โปรแกรมความโกรธ” ทั้งหมดที่เปิดก็มีเท่านี้คะ ช่างเทคนิค : ไม่มีปัญหาครับ โปรแกรมความรักจะค่อยๆ ลบความเจ็บปวดในอดีต ออกจากระบบปฏิบัติการครับ มันอาจจะคงอยู่ในหน่วยความทรงจำ แต่ว่าจะไม่รบกวนการทำงานของโปรแกรมอื่นๆ […]