Posts in category: Story
ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดีและประสบความสำเร็จ

คนรวยคบหาสมาคมกับคนที่มองโลกในแง่ดีและประสบความสำเร็จ คนจนขลุกอยู่กับคนที่มองโลกในแง่ร้ายหรือไม่ประสบความสำเร็จ จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– คนที่ประสบความสำเร็จจะมองความสำเร็จของผู้อื่นเป็นเครื่องสร้างกำลังใจให้ตัวเอง เป็นต้นแบบในการเรียนรู้ พวกเขาจะบอกตัวเองว่า “ถ้าพวกเขาทำได้ ฉันก็ทำได้” คนรวยรู้สึกขอบคุณที่คนอื่นๆ ประสบความสำเร็จล่วงหน้าไปก่อน เพราะพวกเขาจะได้มีแผนที่ไว้สำหรับเดินตามรอยทางสู่ความสำเร็จ ซึ่งง่ายกว่าการที่พวกเขาต้องลองผิดลองถูกเองทั้งหมด หลักการที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผลพร้อมให้ทุกคนหยิบไปประยุกต์ใช้กับตัวเองแล้ว ตรงกันข้ามกับคนรวย เมื่อคนจนได้ยินเรื่องราวความสำเร็จของคนอื่น พวกเขามักตัดสิน วิพากษ์วิจารณ์ ล้อเลียน และพยายามดึงคนเหล่านั้นลงมาอยู่ในระดับเดียวกัน คุณรู้จักคนประเภทนี้บ้างไหม? แทบทุกคนถามคำถามเดียวกัน “ถ้าคนใกล้ชิดของเราไม่ยอมพัฒนาตัวเองแถมยังฉุดเราให้ต่ำลงด้วยล่ะ?” คำตอบที่ผมมอบให้ประการแรกคือ อย่าเสียเวลาชักจูงคนที่มองโลกในแง่ร้ายให้เปลี่ยนแปลงตนเองหรือชวนเขามาร่วมสัมมนาด้วย มันไม่ใช่หน้าที่ของคุณ หน้าที่ของคุณคือการใช้สิ่งที่คุณได้เรียนรู้มาปรับปรุงตัวเองและชีวิตคุณให้ดีขึ้น จงทำตัวเป็นแบบอย่าง จงประสบความสำเร็จและมีความสุข…บางที…ผมขอย้ำว่าบางที…เขาอาจเห็นแสงสว่าง (ในตัวคุณ) และต้องการมันบ้าง ข้อสอง ผมอยากให้คุณจำหลักการสำคัญอีกข้อหนึ่งให้ขึ้นใจ “ทุกอย่างเกิดขึ้นด้วยเหตุผลอย่างใดอย่างหนึ่ง และเหตุผลนั้นก็มีไว้เพื่อสนับสนุนฉัน” ใช่ มันยากมากที่จะคิดอะไรในแง่ดีและมีสติดเมื่อถูกรายล้อมด้วยผู้คนที่คิดไม่ดีและสถานการณือันเลวร้าย แต่นั่นคือบททดสอบ! เหมือนเหล็กที่ย่อมกล้าแกร่งขึ้นเมื่อผ่านเปลวไฟ ถ้าคุณจริงจังกับจุดมุ่งหมายขณะที่คนรอบตัวเฝ้าแต่กังขาหรือแม้กระทั่งส่งเสียงคัดค้าน คุณก็จะยิ่งก้าวไปได้อย่างรวดเร็วและแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น “ไม่มีสิ่งใดมีความหมายนอกจากความหมายที่เรามอบให้มันเอง” ในความคิดของผม โลกนี้มีคนกว่าหกพันสามร้อยล้านคน แล้วเรื่องอะไรผมจะต้องมานั่งจมปลักกับคนที่คอยบั่นทอนกำลังของผมอยู่ตลอดเวลา ถ้าพวกเขาไม่ฉุดตัวเองขึ้นมา ผมก็ขอก้าวต่อไป! “สิ่งสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าคุณรู้อะไร แต่อยู่ที่คุณรู้จักใครต่างหาก” ดังนั้นผมขอบอกคุณไว้เลยว่า “ถ้าคุณอยากจะบินกับฝูงอินทรี อย่าไปว่ายน้ำกับฝูงเป็ด!” คนรวยชอบคบหากับผู้ชนะ คนจนคลุกคลีกับผู้แพ้ ทำไม? […]

ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยชื่นชมผู้ร่ำรวย

คนรวยชื่นชมผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จคนอื่นๆ คนจนชิงชังผู้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จ จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– คุณต้องตระหนักว่า ถ้าคุณเห็นคนรวยเป้นคนเลวไม่ว่าจะในเรื่องใด ด้านใด หรือรูปแบบใดก็ตาม และคุณอยากจะเป็นคนดี คุณก็ไม่มีทางร่ำรวยได้หรอก มันเป็นไปไม่ได้ คุณจะเป็นในสิ่งที่คุณจงเกลียดจงชังได้อย่างไร? ความขุ่นเคืองและความโกรธแค้นที่คนจนหลายคนมีต่อคนรวยช่างรุนแรงจนน่าแปลกใจ ดูราวกับพวกเขาเชื่อว่าคนรวยเป็นตัวการที่ทำให้พวกเขายากจน “ใช่เลยถูกต้องที่สุด คนรวยกอบโกยเงินไปหมด มันก็เลยไม่มีเหลือตกมาถึงฉัน” แน่ล่ะ นี่มันบทพูดของพวกสวมบทผู้ถูกกระทำชัดๆ ความคิดและความเห็นไม่มีดีหรือเลว ไม่มีถูกหรือผิดหรอกเมื่อมันผุดขึ้นในหัวคุณ แต่มันสามารถส่งเสริมหรือบั่นทอพลังที่จะนำคุณไปสู่ความสุขและความสำเร็จได้ คุณรวยได้โดยไม่ต้องเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ เพียงแต่คุณต้องรู้เท่าทันเมื่อความคิดของคุณเริ่มไม่เสริมพลังให้กับตัวเองหรือคนอื่น แล้วรีบปรับความคิดให้เป็นไปในแง่บวกมากขึ้น นี่เป็นส่วนหนึ่งของหนังสือ Acres of Dismonds ของ รัสเซล เอช คอนเวลล์ ซึ่งเขียนขึ้นเมื่อร้อยกว่าปีแล้ว “ในการเทศนานั้นพวกเราสอนให้ทุกคนต่อต้านความโลภ…และเรียกสิ่งนั้นว่า “เงินสกปรก” กันอย่างติดปาก จนชาวคริสเตียนเข้าใจว่า การมีเงินเป็นเรื่องเลวร้ายไม่ว่าจะสำหรับใครหน้าไหนก็ตาม แต่แท้จริงแล้วเงินคืออำนาจ และคุณควรมีความทะเยอทะยานในระดับที่เหมาะสมเพื่อให้ได้มันมาครอบครอง คุณควรมีเงิน เพราะถ้ามีเงิน คุณสามารถสร้างสรรค์ความดีได้มากกว่าถ้าคุณไม่มีเงิน เงินใช้พิมพ์ไบเบิ้ล เงินใช้สร้างโบสถ์ เงินใช้ส่งนักสอนศาสนาไปยังที่ต่างๆ และจ่ายเงินเดือนให้นักเทศน์…ดังนั้นผมขอยืนยันว่า คุณควรมีเงิน ถ้าคุณสามารถสร้างฐานะอันมั่งคั่งได้ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต…นั่นย่อมหมายถึงพระผู้เป็นเจ้าได้มอบหมายหน้าที่นี้ให้แก่คุณ ผู้ที่เคร่งศาสนามีความเชื่อที่ผิดมหันต์ที่คิดว่า คุณจะต้องยากจนข้นแค้น คุณจึงจะได้ชื่อว่าเป็นคนดีมีศีลธรรม” หนึ่งในปรัชญาที่เป็นแนวทางในการใช้ชีวิตของผมมาจากสุภาษิตฮูน่าโบราณ ซึ่งเป็นคำสอนดั้งเดิมของผู้เฒ่าชาวฮาวายนั่นคือ […]

ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยมุ่งความสนใจไปที่โอกาส

คนรวยมุ่งความสนใจไปที่โอกาส คนจนมุ่งความสนใจไปที่อุปสรรค จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– คนจนตัดสินใจโดยยึดติดกับความกลัว ในทุกสถานการณ์สมองของพวกเขาจะเฟ้นหาแต่ข้อผิดพลาดหรือสิ่งที่อาจกลายเป็นเรื่องผิดพลาด ความคิดหลักๆในหัวของพวกเขาคือ “แล้วถ้ามันไม่ได้ผลล่ะ?” หรือที่บ่อยครั้งกว่านั้นคือ “มันไม่ได้ผลหรอก” ชนชั้นกลางมองโลกในแง่ดีกว่าหน่อย พวกเขาชอบคิดว่า “ฉันหวังว่ามันจะได้ผลนะ” ส่วนคนรวย พวกเขารับผิดชอบต่อผลลัพธ์ในชีวิตของตัวเอง และทำสิ่งต่างๆ ด้วยความคิดในทำนองที่ว่า “มันต้องได้ผลแน่เพราะฉันจะทำให้มันได้ผล” คนรวยคาดหวังความสำเร็จ พวกเขาเชื่อมั่นในความสามารถและความคิดสร้างสรรค์ของตัวเอง ยิ่งรางวัลตอบแทนมีค่ามากเท่าไหร่ คุณก็ต้องยอมเสี่ยงมากขึ้นเท่านั้น เนื่องจากคนรวยมองเห็นโอกาสตลอดเวลา พวกเขาจึงเต็มใจที่จะเสี่ยง คนรวยเชื่อว่าถ้าเกิดเรื่องเลวร้ายจนกระทั่งย่ำแย่ถึงขีดสุด พวกเขาก็มีวิธีหาเงินกลับคืนมาได้เสมอ ในทางกลับกันคนจนคาดหวังแต่ความล้มเหลว พวกเขาขาดความเชื่อมั่นในตัวเองและความสามารถของพวกเขา คนจนเชื่อว่าถ้าสิ่งต่างๆ ไม่ได้เป็นไปอย่างที่คิด นั่นหมายถึงหายนะ และเนื่องจากพวกเขามักมองเห็นแต่อุปสรรค พวกเขาจึงมักไม่ยอมเสี่ยง และเมื่อไม่ยอมเสี่ยง พวกเขาก็ไม่ได้รับรางวัลตอบแทน แม้คนจนจะอ้างว่าตนเองกำลังเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับโอกาส สิ่งที่พวกเขาทำจริงๆก็คือ การนั่งเฉย พวกเขากลัวจนหัวหด เอาแต่กระแอมไอ จนกระทั่งเวลาผ่านไปเป็นปีๆ และเมื่อถึงเวลานั้น โอกาสก็หายสาบสูญไปแล้ว ประเด็นก็คือ ไม่มีทางที่โชค…หรือสิ่งอื่นใดที่มีค่า…จะมาถึงตัวคุณได้เลยถ้าคุณไม่ลงมือทำการใดๆ หากต้องการความสำเร็จทางการเงิน คุณต้องทำอะไรบางอย่าง กุญแจสำคัญอีกอย่างคือ คนรวยให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาต้องการ ส่วนคนจนให้ความสนใจกับสิ่งที่พวกเขาไม่ต้องการอีกเช่นเคย กฎครอบจักรวาลระบุว่า “สิ่งที่คุณให้ความสนใจจะยิ่งเพิ่มขยายผล” เพราะคนรวยให้ความสนใจกับโอกาสในทุกสถานการณ์ พวกเขาจึงได้รับโอกาสมากมาย ตรงข้ามกับคนจน […]

ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยเชื่อว่า”ฉันกุมชะตาชีวิตของตัวเอง”

คนรวยเชื่อว่า “ฉันกุมชะตาชีวิตของตัวเอง” คนจนเชื่อว่า “ฉันถูกลิขิตให้เป็นอย่างนี้” จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– แน่นอนว่าใครๆก็อยากถูกล็อตเตอรี่ แม้แต่คนรวยก็ซื้อบ้างเป็นบางครั้งเพื่อความสนุก แต่ข้อแตกต่างอย่างแรกคือ คนรวยไม่ได้ซื้อล็อตเตอรี่ด้วยเงินครึ่งหนึ่งของรายได้ทั้งหมด และข้อสองคือ การถูกล็อตเตอรี่ไม่ใช่ “กลยุทธ์” หลักที่ทำให้พวกเขาร่ำรวยขึ้นมา คุณต้องเชื่อว่าคุณคือผู้สร้างหนทางสู่ความสำเร็จด้วยตนเอง คือผู้ที่ทำให้ตัวเองมีฐานะปานกลาง และคือผู้ที่ทำให้ตัวเองต้องดิ้นรนกระเสือกกระสนหาเงินและความสำเร็จ แต่ไม่ว่าจะรู้ตัวหรือไม่ก็ตาม คนๆนั้นก็คือคุณ คนยากจนมักจะเลือกที่จะสวมบทบาทผู้ถูกกระทำ แทนที่จะยืดอกรับผิดชอบต่อสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิต ความคิดอันดับต้นๆในหัวของผู้ถูกกระทำจะเป็นในทำนองที่ว่า “ฉันนี่น่าสมเพชจัง” ดังนั้นด้วยพลังแห่งความตั้งใจ เขาคนนั้นก็จะกลายเป็นคนที่ “น่าสมเพช” ขึ้นมาจริงๆ แล้วคุณจะบอกได้อย่างไรเวลาคนเราสวมบทบาทผู้ถูกกระทำ? พวกเขาจะมีพิรุธที่เห็นได้ชัดอยู่ 3 ข้อ พิรุธที่ 1 : นักกล่าวโทษ เมื่อถามว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ร่ำรวย ผู้ถูกกระทำส่วนใหญ่จะกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการกล่าวโทษ ซึ่งหมายถึงขีดความสามารถของคุณในการโยนความผิดใส่คนอื่นๆ หรือสถานการณ์ต่างๆโดยไม่ต้องหันมาดูตัวเอง ผู้ถูกกระทำโทษระบบเศรษฐกิจ โทษรัฐบาล โทษตลาดหุ้น โทษผู้จัดการ โทษบริษัทแม่ โทษหัวหน้า โทษลูกน้อง โทษแผนกจัดส่ง โทษคู่สมรส โทษพระเจ้า และแน่นอน พวกเขากล่าวโทษพ่อแม่ตัวเองเสมอๆ สำหรับคนกลุ่มนี้ ทุกอย่างเป็นความผิดของคนอื่นหรือสิ่งอื่นเสมอๆ สิ่งที่เป็นปัญหาคือสิ่งใดๆ หรือใครก็ตามที่ไม่ใช่ตัวเขาเอง […]

Friend or best friend

Friend : เพื่อนจะเรียก พ่อ แม่ คุณ ว่าคุณป้า หรือ คุณลุง Best friend : จะเรียกพ่อ แม่คุณว่า คุณพ่อ คุณแม่ จริงมั้ย?? Friend : ไม่เคยเห็นคุณร้องไห้ อืม . . .ไม่ถึงกับไม่เคยก็คงมี Best friend : จะเป็นที่พักพิงที่ดีที่สุดในทุกเวลาที่คุณร้องไห้ Friend: เพื่อน เวลาเค้าไปเที่ยวบ้านคุณ เค้าจะเกรงใจ ไม่เคยถาม ขอ ทุกอย่างที่เกี่ยวกับการกิน ดื่ม Best friend : เวลาอยู่บ้านคุณ เค้าจะเปิดตู้เย็นบ้านคุณ พร้อมกับหยิบของที่คุณชอบมาให้ Friend : เพื่อน จะถามเบอร์โทรศัพท์คุณ และบันทึกไว้ Best friend : เค้าไม่จำเป็นต้องถาม และบันทึกมัน (( เพราะเค้าจำได้อยู่แล้วน่ะสิ )) […]

ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยคิดการใหญ่

คนรวยคิดการใหญ่ คนจนคิดการเล็ก จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– คุณจะได้รับเงินเท่ากับมูลค่าของตัวคุณในท้องตลาด ปัจจัยที่บ่งบอกมูลค่าของคุณในท้องตลาดมี 4 ประการ นั่นคือ อุปสงค์ อุปทาน คุณภาพ และปริมาณ จากประสบการณ์ของผม ปัจจัยที่เป็นอุปสรรคอันใหญ่หลวงที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่คือ ปริมาณ ซึ่งหมายถึง ปริมาณงานที่คุณสามารถทำได้ในสาขาอาชีพนั้นๆ พูดอีกอย่างก็คือ คุณสามารถให้บริการหรือสร้างผลกระทบกับจำนวนคนมากแค่ไหน? ผมเคยเป็นเจ้าของฟิตเนส ตั้งแต่นาทีแรกที่ผมคิดจะทำธุรกิจนั้น ผมตั้งใจจะเปิดสาขาให้ประสบความสำเร็จสักร้อยแห่งและให้บริการคนป็นหมื่นๆคน ในทางกลับกัน คู่แข่งของผมซึ่งเริ่มทำธุรกิจนี้หลังจากผมหกเดือน คาดหวังแค่การสร้างฟิตเนสที่ประสบความสำเร็จเพียงสาขาเดียวเท่านั้น สุดท้ายแล้ว เธอจึงมีฐานะแค่พออยู่ได้ ขณะที่ผมร่ำรวย!ณค่าให้ช หนึ่งในนักประดิษฐ์และนักปรัชญาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุดในยุคของเราคือ บัคมินสเตอร์ ฟูลเลอร์ เขาเคยกล่าวไว้ว่า “จุดประสงค์ในชีวิตของเราคือการเพิ่มคุณค่าให้ชีวิตของผู้คนในยุคนี้และยุคต่อๆไป” เราต่างถือกำเนิดขึ้นมาบนโลกพร้อมกับพรสวรรค์ ซึ่งเป็นสิ่งที่เราทำได้ดีโดยธรรมชาติ คุณได้รับของขวัญพิเศษนี้ด้วยเหตุผลประการเดียว นั่นคือ เพื่อนำไปใช้และแบ่งปันให้กับคนอื่นๆ ผลการวิจัยแสดงให้เห็นว่า ผู้ที่มีความสุขที่สุดคือคนที่ใช้พรสวรรค์ของตนอย่างเต็มที่ หนึ่งในภารกิจแห่งชีวิตของคุณคือการแบ่งปันพรสวรรค์และคุณค่าของคุณให้ผู้คนจำนวนมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ นั่นหมายถึงการเต็มใจที่จะคิดการใหญ่ คุณรู้ความหมายของคำว่า ผู้ประกอบการหรือเปล่า? ในการสัมมนาของเรา เราให้คำจำกัดความกับมันว่า “ผู้แสวงหาผลกำไรจากการช่วยคนอื่นแก้ปัญหา” ใช่แล้ว อาชีพนี้ไม่ต่างอะไรจาก “นักแก้ปัญหา” ยิ่งคุณช่วยคนมาก คุณก็จะ “ร่ำรวย” ยิ่งขึ้น […]

ใครสักคน

การที่เราจะคบหาหรือรู้จักใครสักคน ไม่ว่าจะในฐานะอะไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่ควรท่อง ควรจำไว้อยู่เสมอก็คือ “คน” เป็นสิ่งมีชีวิต ที่มีทั้งด้านบวก และด้านลบ อยู่ในนั้น อย่าตั้งใจกับคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะไม่มีใครอยากเป็นต้นเหตุของความล้มเหลว อย่าคาดหวังกับ คนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะไม่มีใครสามารถเป็นทุกอย่าง ที่ทุกคนอยากให้เป็น อย่าให้เวลากับคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะไม่ว่าใครก็อยากมีช่วงเวลาความเป็นส่วนตัว. . . คนเดียว …. อย่าพยายามเปลี่ยนแปลงคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะนั่นจะทำให้เค้าไม่หลงเหลือ .. ความเป็นตัวของตัวเอง อย่าควบคุมชีวิตคนหนึ่งคนมากเกินไป เพราะมนุษย์มักจะหาวิธีการแทรกตัว เพื่อออกมาจากกฎที่ถูกกำหนด อย่าบีบบังคับคนหนึ่งคนมากไปกว่านี้ เพราะถ้าคน ๆ นั้น หลุดจากภาวะบีบบังคับมาได้ คุณจะกลายเป็นคนที่ถูกหันหลังให้ในทันที เธอ. . . ลองมองดูฉันดี ๆ ฉันมีลมหายใจ ไม่ใช่ภาพวาด ที่จะสวยงามอยู่ตลอดเวลา ฉันเองก็เป็น “คน” เป็นสิ่งมีชีวิตที่มี 2 ด้าน. . . เช่นกัน …อยากรู้จักใครสักคน ต้องหัดเรียนรู้ ไม่ใช่เปลี่ยนแปลง… ที่มา : […]

ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยทุ่มเทเพื่อความรวย คนจนแค่อยากรวย

คนรวยทุ่มเทเพื่อความรวย คนจนแค่อยากรวย จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– ถามคนส่วนใหญ่ดูสิว่าพวกเขาอยากรวยไหม พวกเขาจะมองหน้าคุณเหมือนเห็นคนสติไม่ดี “แน่นอน ฉันอยากรวย” พวกเขาจะตอบอย่างนี้ ทว่า ความจริงก็คือคนส่วนใหญ่ไม่ได้อยากรวยจริงๆหรอกครับ เพราะอะไรน่ะหรือ? เพราะพวกเขามีข้อมูลด้านลบเกี่ยวกับความร่ำรวยซ่อนอยู่ในจิตใต้สำนึก ซึ่งบอกว่าการเป็นคนรวยเป็นเรื่องที่ผิด “ฉันจะไม่มีวันรู้เลยว่าคนอื่นชอบฉันที่ตัวฉันหรือเงินของฉัน” “ฉันต้องเสียภาษีอานและต้องจ่ายเงินครึ่งหนึ่งของฉันให้รัฐบาล” “ต้องทำงานหนักเกินไป” “เสียสุขภาพแย่” “ทุกคนคงอยากไถเงินฉัน” “ฉันอาจถูกปล้น” “เดี๋ยวลูกๆฉันโดนลักพาตัว” “มันต้องรับผิดชอบมากเกินไป ฉันต้องบริหารเงินทั้งหมดนั่น ต้องทำความเข้าใจเรื่องการลงทุนให้กระจ่าง ต้องกังวลเรื่องกลยุทธ์ทางภาษีและการปกป้องทรัพย์สิน และต้องจ้างนักบัญชีกับทนายแพงๆมาช่วยดูแล เฮ้อ ยุ่งยากชะมัด” และอีกสารพัดสารเพ… ลองคิดแบบนี้ก็ได้ครับ สวรรค์ หรือที่เรียกอีกอย่างว่า “สิ่งศักดิ์สิทธิ์” ก็คล้ายแผนกส่งของตามสั่ง ที่ทำหน้าที่ส่งผู้คน เหตุการณ์ และสิ่งต่างๆมาให้คุณอย่างต่อเนื่อง คุณ “สั่ง” ด้วยการส่งคลื่นความคิดไปยังสวรรค์ ผ่านความเชื่อที่เด่นชัดที่สุดของคุณ ด้วยกฎแห่งแรงดึงดูด สวรรค์จะตอบตกลงและบันดาลทุกอย่างให้เป็นไปตามที่คุณต้องการ แต่ถ้าแฟ้มข้อมูลของคุณมีความสับสนปนเป สวรรค์ก็จะไม่เข้าใจว่าคุณอยากได้อะไรกันแน่ ตอนแรกเมื่อสวรรค์ได้ยินว่าคุณอยากรวย สวรรค์ก็จะเริ่มส่งโอกาสแห่งความมั่งคั่งมาให้คุณ แต่เมื่อได้ยินคุณบอกว่า “คนรวยโลภมาก” สวรรค์จะช่วยให้คุณมีเงินน้อย จากนั้นคุณก็คิดว่า “การมีเงินมากๆ จะช่วยให้ชีวิตรื่นรมย์ขึ้นเยอะเลย” และแล้วสวรรค์ที่น่าสงสาร ซึ่งทั้งสับสนและมึนงง […]

เมื่อรักกลับมาหา ตอนจบ

ก็คนที่เดินมากับไอวอ เป็นเอ๊ะอ่ะสิคับ ผมงงเล็กน้อยคับ ว่าเอ๊ะมาได้ไง…. แต่ก็ไม่กล้าถามต่อหน้าเอ๊ะ เพราะกัวเสียมารยาทคับ ตลอดทางที่ขับรถไป ภูเก็ตประมาณ 8ชม. ไอวอแกจู๋จี๋กับเอ๊ะตลอดคับ ส่วนไอขวัญ เริ่มหงุดหงิดคับ – -” ( คนขับ เป็นคนงานที่บ้านผม ซึ่งผมให้เขาขับมาให้ เพราะมันไกล ไม่กล้าขับมาเองกลัวหลง – -” ) ” เฮ้ย แวะกินข้าวเหอะโอ กรุหิวว่ะ ” ไอขวัญ รำคาญไอวอจนต้องขอแวะกินข้าวคับ แล้วน้าราชก็แวะร้านอาหารร้านนึงให้ ( น้าราช = คนขับ )… ก็นั่งกินกันจนอิ่ม แล้วที่นี่ก็ยิงยาวยันภูเก็ตคับ ( มีแวะเข้าห้องน้ำตามปั๊มมั่ง ) พอถึงภูเก็ต ไอวอไม่พูดพร่ำทำเพลงคับ วิ่งลงน้ำคนแรกเหมือนไม่เคยเห็นทะเลเลยคับ – -” ทั้งๆที่ยังไม่ได้หาโรงแรมเลย เวนจิงๆ ผมจึงให้น้าราชไปหาโรงแรมให้ ส่วนผมกะเพื่อนๆก็ไปเช่าโต๊ะนั่งอยู่ริมทะเลกัน แล้วก็สั่งอาหารมากิน ซักพัก น้าราชโทรมา บอกชื่อโรงแรม แล้วก็ถามว่าจะให้ไปรับตอนไหน […]

ไขความลับสมองเงินล้าน – คนรวยเล่นเกมการเงินเพื่อเอาชนะ

คนรวยเล่นเกมการเงินเพื่อเอาชนะ คนจนเล่นเกมการเงินเพื่อไม่ให้แพ้ จากเมล์ที่ได้รับ ——————————————————————————– ถ้าคุณเล่นกีฬาหรือเกมอะไรก็ตามโดยเอาแต่ตั้งรับ คุณจะมีโอกาสชนะในเกมนั้นมากแค่ไหน? คนส่วนใหญ่คงเห็นพ้องต้องกันว่าโอกาสคงมีอยู่เพียงน้อยนิดหรือไม่ก็เป็นไปไม่ได้เลย เป้าหมายที่แท้จริงของคนรวยคือการมีฐานะอันมั่งคั่งและมีเงินทองเหลือกินเหลือใช้ พวกเขาไม่ได้อยากมีเงินแค่พอใช้ แต่อยากมีเงินจำนวนมหาศาล แล้วเป้าหมายของคนจนล่ะ? พวกเขาอยาก “มีเงินพอสำหรับจ่ายใบแจ้งหนี้ต่างๆ …และถ้าจ่ายได้ตรงเวลาด้วยยิ่งเป็นเรื่องปาฏิหารย์!” เมื่อคุณตั้งใจให้มีเงินแค่พอจ่ายใบแจ้งหนี้ คุณก็จะมีเงินเท่านั้นจริงๆ…แค่พอสำหรับจ่ายเงินจำนวนนั้น ไม่ขาดและไม่เกินมาสักเซ็นต์ พวกชนชั้นกลางดีกว่านิดหน่อย…อย่างน้อยก็หนึ่งขั้น แต่เป็นเพียงระดับขั้นเล็กๆ พวกเขาดันเลือกคำๆหนึ่งมาเป็นเป้าหมายหลักในการดำเนินชีวิต คำๆนั้นคือคำว่า “อยู่อย่างสบาย” ขอบอกว่าการอยู่อย่างสบายกับการเป็นคนรวยนั้นแตกต่างกันราวฟ้ากับดิน อันที่จริงคนมีฐานะปานกลางมักเลือกอาหารโดยพิจารณาจากฝั่งขวาของเมนู…หรือที่เรียกว่าการสั่งโดยดูราคาเป็นหลักนั่นเอง เมื่อคุณมีฐานะปานกลาง คุณจะไม่กล้าทอดสายตามองส่วนล่างสุดของเมนู เพราะถ้าทำอย่างนั้น คุณอาจเห็นสุดยอดคำต้องห้ามในพจนานุกรมของชนชั้นกลาง นั่นคือคำว่า “ราคาตามน้ำหนัก!” หนึ่งในเรื่องที่ดีที่สุดของการเป็นคนรวยคือผมไม่จำเป็นต้องดูราคาอาหารในเมนูก่อนจะสั่ง ผมกินสิ่งที่ผมอยากกินได้โดยไม่ต้องสนว่าราคาเท่าไหร่ ผมยืนยันได้เลยว่า ผมทำอย่างนั้นไม่ได้ ตอนที่ผมถังแตกหรือมีฐานะปานกลาง เราจะได้ในสิ่งที่เป็นความมุ่งหมายที่แท้จริงของเรา ถ้าคุณอยากรวย เป้าหมายของคุณต้องเป็นความร่ำรวย ไม่ใช่แค่มีเงินพอจ่ายใบแจ้งหนี้และไม่ใช่แค่พออยู่ได้สบาย ความรวยก็คือความรวย!