1.เอาใจเขามาใส่ใจเรา 2.เชื่อมั่นตัวเอง 3.อย่ามองคนที่หน้าตา 4.กล้าคิด พูด และทำ 5.เมื่อมีเรื่อง จงหมั่นปรึกษาผู้อื่น 6.และจงเป็นที่ปรึกษาให้ผู้อื่นด้วย 7.อย่าโกหกกับเรื่องที่คุนคิดว่าผิด 8.ไว้ใจบุคคลที่สมควรไว้ใจ 9.เปิดใจให้กว้าง 10.มองการณ์ไกล 11.วางแผนอนาคต 12.อย่าโทษตัวเอง 13.มีความรับผิดชอบ 14ตอบแทนเมื่อได้รับ 15.ให้ในสิ่งที่ผู้อื่นอยากได้และไม่มี 16.อย่าใช้อารมณ์ แต่จงใช้ความคิด 17.คิดถึงส่วนรวมให้มาก 18.ดูแลตัวเองให้เป็น 19.รู้ผิด ชอบ ชั่ว ดี 20.อย่าปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเสียเปล่า 21.อย่ารู้ค่าสิ่งที่อยู่กับเราต่อเมื่อเราสูญเสียไปแล้ว 22.จงรู้ตัวอยู่เสมอว่าตอนนี้กำลังทำอะไร 23.ที่ทำอยู่มีผลดี ผลเสีย มีประโยชน์ หรือไร้ประโยชน์ 24.อย่าวัวหายแล้วล้อมคอก 25.ให้อภัยแก่ตนเองและผู้อื่น 26.อย่าเก็บอดีตมาทำร้ายตนเอง แต่จงหัดที่จะเรียนรู้จากมัน 27.คนไม่ผิดคือคนที่ไมม่เคยทำอะไร 28.ได้หน้าอย่าลืมหลัง 29.คุนไม่ใช่พระเจ้า อย่าคิดซ่อมความรู้สึก แต่จงวางแผนที่จะดูแลมันไม่ให้เสีย 30.อย่าอ่านข้อความที่มีประโยชน์ผ่านๆ 31.อ่านแล้วคิด คิดแล้วทำ หมั่นพัฒนาตนเอง 32.รู้จักแบ่งเวลา และหน้าที่ 33.ทำประโยขน์ให้แก่ส่วนรวมบ้าง 34.อย่าเห็นแก่ตัว 35.อย่ารอคอยในสิ่งที่ยังมาไม่ถึง 36.อย่ากลัวในสิ่งที่ตนสามารถสู้หรือเปลี่ยนแปลงมันได้ 37.กำลังใจเป็นสิ่งสำคัญ หัดเติมให้คนอื่น แล้วเขาจะกลับมาเติมให้คุนเอง […]
1. นึกไว้เสมอว่าการโกรธ1นาที จะทำให้ความทุกข์อยู่กับคุณ 3ชั่วโมง 2. ถ้ายิ้มให้กับคนที่อยู่ในกระจก รับรองว่าเค้าต้องยิ้มตอบกลับมาทุกครั้งแน่ 3. ลองปลูกต้นไม้เองสักต้น การเติบโตของมันจะบ่งบอกตัวตนของคุณได้ 4. หลับตานิ่งๆสักสามนาที เมื่อรู้สึกว่าอะไรที่อยู่ตรงหนามันช่างยากเหลือเกิน 5. ระหว่างแปรงฟันฮัมเพลงด้วยจนจบ จะทำให้ฟันสะอาดขึ้นสองเท่า แฮะๆ 6. เคี้ยวข้าวแต่ละคำให้ช้าลง จากที่รสชาติธรรมดาก้อจะอร่อยขึ้นเยอะเลย 7. ไม่ว่าผมจะสั้นหรือยาวแค่ไหน ก้อต้องการให้หวีอย่างทะนุถนอมเหมือนกันหมด 8. การขึ้นลงบันไดสูงๆ แบบไม่ให้เมื่อย คือการไม่นับว่ากำลังยืนอยู่บันไดขั้นที่เท่าไร 9. คนตาบอดจะเห็นว่าคุณสวยมากๆ ทันทีที่คุณถามเค้าว่า “ช่วยพาข้ามถนนไหมคะ?” 10. เมื่อจะหยิบเศษเงินให้ขอทาน ไม่จำเป็นต้องนับก่อนที่จะหย่อนลงกระป๋องหรอก 11. ควรหัดพูดคำว่า “ไม่เป็นไร” ให้เคยปากมากกว่าการพูดคำว่า “จะเอายังไง” 12. ลองตั้งนาฬิกาให้เร็วขึ้น15นาที รับรองว่าจะไม่ค่อยไปสายเหมือนเมื่อก่อน 13. สัตว์เลี้ยงที่บ้านเก็บความรับเก่ง เรื่องที่ไม่อยากให้ใครรู้จึงเล่าให้มันฟัง 14. อาหารที่ไม่ชอบกินตอนเด็ก ลองตักเข้าปากอีกทีเผื่อจะกลายเป็นอาหารจานโปรด 15. เขียนชื่อคนที่เกลียดใส่กระดาษแล้วฉีกทิ้ง ความเกลียดจะเบาบางลงไปเรื่อยๆ 16. ให้ปล่อยน้ำตาไหลโดยไม่ต้องเช็ด เมื่อน้ำตาแห้งจะดูแทบไม่ออกว่าเพิ่งร้องไห้ 17. […]
ชีวิตคนเรามีทั้งขึ้นและลง ถ้าอยากมีความสุข คุณต้องรู้จักซึมซับความรู้สึกอื่นๆ ด้วย ไม่ว่าจะเป็นความโศกเศร้าหรือความโกรธที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน รวมทั้งยอมรับในสิ่งที่คุณมีและสถานภาพที่คุณเป็น เพื่อจะได้มีความสุขกับชีวิตมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ หากคุณหาสาเหตุไม่ได้ว่าทำไมจึงไม่มีความสุขทั้งที่ตัวเองก็ไม่ได้ลำบากยากแค้นอะไร ลองอ่านข้อคิดต่อไปนี้เพื่อจะได้ระลึกว่า “เราเองก็มีชีวิตที่ดีทีเดียว” 1 คิดใหม่ ใช้ชีวิตราวกับว่าวันนี้เป็นวันสุดท้าย คนที่ป่วยหนักหรือเผชิญกับอุบัติเหตุใกล้ตาย เห็นโศกนาฏกรรมหรือสูญเสียบุคคลผู้เป็นที่รักมักมีมุมมองชีวิตที่ต่างออกไป หลายคนบอกว่าจะไม่ปล่อยเวลาให้สายเกินไปอีกแล้ว จะท่องเที่ยวไปในโลกกว้างหรือติดต่อพบปะเพื่อนฝูง เราทุกคนก็ควรตระหนักว่าอาจไม่มี “พรุ่งนี้” ก็ได้ 2 จดบันทึก เขียนเล่าถึงสิ่งดีๆ ที่เกิดขึ้นกับคุณทุกวัน การจดบันทึกยังช่วยแก้ปัญหาและขจัดเรื่องไม่ดีที่รกสมองออกไปได้ด้วย ลองเริ่มเขียนตั้งแต่วันนี้รับรองได้ผลแน่ 3 มองในแง่มุมอื่นบ้าง ลองคิดว่าคุณอยากให้คนอื่นจดจำคุณในด้านใด หรือหากวันหนึ่งต้องเล่าเรื่องชีวิตตนเองให้หลานๆ ฟัง คุณจะเล่าอะไร คุณจำเป็นต้องเปลี่ยนผ้าปูที่นอนทุกสัปดาห์และถูบ้านทุกวันหรือ แล้วที่คุณพลาดการแสดงละครของลูกที่โรงเรียนเมื่อปีที่แล้วเพราะติดประชุมเล่า ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไรบ้างเมื่อมองย้อนกลับไป 4 อย่าให้เรื่องเล็กน้อยกวนใจ ไม่คุ้มหรอกที่จะหัวเสียกับเรื่องไม่เป็นเรื่อง หากคนขับรถคันข้างๆ ไม่ยอมให้คุณเบียดเข้าเลนก็ยิ้มและโบกมือให้เขาไปเลยแล้วจะหงุดหงิดไปทำไมหากพลาดรถเที่ยวเช้า หากาแฟดื่มขณะนั่งรอคันต่อไปดีกว่า 5 ทำงานยากให้เสร็จ ลงมือได้แล้วอย่าผัดวันประกันพรุ่ง โอ้เอ้ไปก็มีแต่ทำให้หนักใจเหนื่อยกาย ไหนๆ งานนี้ก็ต้องทำโดยไม่มีทางหลีกเลี่ยง ก็น่าจะทำให้เสร็จแทนที่จะมัวกังวลและคิดจนรกสมอง 6 เลิกทำตัวจำเจ ชีวิตคงหน้าเบื่อหากทำอะไรซ้ำซากทุกวันทุกสัปดาห์ เราน่าจะมีเรื่องแปลกใหม่มาทำให้หัวใจกระชุ่มกระชวยบ้าง ถ้าเอาแต่นอนตื่นสายทุกวันอาทิตย์ก็น่าจะลุกขึ้นมาแต่เช้าไปกินอาหารอร่อยๆ นอกบ้าน หรือไปตลาดแล้วจ่ายกับข้าวมาทำอาหารมื้ออร่อยกินกันที่บ้าน […]
บางครั้งการนุ่งลมห่มฟ้ากำจัดเสื้อผ้าทุกชิ้นออกไปให้พ้นทาง อาจไม่ใช่การโปรยเสน่ห์ที่ดี มีศิลปะอย่างที่คุณคิดเสมอไปและที่แย่ยิ่งไปกว่านั้นคือ ไม่อาจจะใช้ได้ผลกับหวานใจคุณ เนื่องจากการเปิดเผยเรือนร่างให้เขาเห็นบ่อยเกินไปย่อมทำให้เกิดอาการชินชาได้เหมือนกัน ลองดูเทคนิคเล็กๆ สำหรับโปรยเสน่ห์ที่ดูมีคลาสกันดีกว่า 1. ใช้ภาษากาย ดึงดูดสายตาของเขาให้มองมาที่คุณด้วยภาษากาย ซึ่งภาษากายที่ว่าได้แก่ การจับจ้องมองเขาพร้อมด้วยรอยยิ้มที่ดวงตาและริมฝีปาก พยายามให้เขาเห็นถึงไฟในทรวงที่กำลังร้อนเร่าของคุณ โดยท่าทางหรือภาษาทางกายเหล่านี้จะสามารถฉายแววออกมาได้เองโดยอัตโนมัติ หากเพียงคุณคิดหรือจินตนาการถึงเรื่องหวาบหวิวหรือเรื่องเซ็กซี่บางอย่างอยู่ จากนั้นก็ใช้มือของคุณสัมผัสและลูบไล้ตัวเองเพื่อเป็นไกด์นำทางให้สายตาของเขาจับจ้องไปตามส่วนต่างๆของเรือนร่างที่มือคุณค่อยๆเคลื่อนไปอย่างเป็นธรรมชาติ เช่น ในขณะที่เขากำลังพูดคุยกับคุณ ให้คุณจ้องมองตาเขาด้วยรอยยิ้ม พร้อมกับยกมือขึ้นลูบไล้ลำคอของตัวเอง แล้วค่อยๆเลื่อนไปที่กระดูกไหปลาร้า จนกระทั่งเกือบถึงเนินอก จากนั้นก็หยุดมือของคุณวางทาบไว้อยู่ตรงนั้น 2. ค่อยๆเปิดเผยเรือนร่าง แทนที่คุณจะถอดออกหมดทุกชิ้นทันทีที่ได้เจอกัน วันนั้นคุณก็ลองเปลี่ยนมาใส่เสื้อผ้าที่ค่อนข้างมิดชิด จากนั้นก็ค่อยทำเป็นเผลอโชว์สัดส่วนออกไปแบบวับๆแวมๆอย่างไม่ได้ตั้งใจทีละนิด เท่านั้นแหละก็จะทำให้สัญชาตญาณความเป็นชายที่ชอบซุกซนค้นหาในตัวของเขาถูกกระตุ้นขึ้นมาทันที 3. ใช้สัมผัสอันอบอุ่น แตะต้องสัมผัสเนื้อตัวเขาบ้าง อย่างเช่น ขณะที่กำลังนั่งสนทนากัน คุณอาจถูกเนื้อต้องตัวเขาบ้างหรือวางมือลงบนเข่าของเขาอย่างอ่อนโยนในบางครั้ง พอให้เขารับรู้กลายๆว่าคุณมีใจให้้เขาอยู่และการที่คุณเป็นฝ่ายเริ่มต้นก่อน หรือกล้าที่จะแตะต้องตัวเขาก็จะทำให้เขาเกิดความกล้าที่จะแตะต้องเนื้อตัวร่างกายของคุณเช่นกัน 4. ฝากใจให้เขาด้วยรสจูบ หากการหว่านเสน่ห์ของคุณกำลังไปได้สวยและช่วยเปิดทางให้เขากล้าเข้ามาใกล้ชิดสนิทสนมกับคุณมากขึ้น แต่คุณก็ยังไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจให้เป็นของเขาอย่างง่ายดายจนเกินไป ทางที่ดีแล้วควรให้้เขาสะสมความต้องการของตัวเองที่มีต่อตัวคุณเอาไว้อีกสักนิด ด้วยการจูบเขาอย่างดื่มด่ำพร้อมกอดเขาอย่างแนบแน่น พยายามอ้อยสร้อยอ้อยอิ่งอยู่ในฉากนี้ให้เนิ่นนานก่อนที่จะบอกลาเขา อย่าลืมใช้เสียงอันหวานฉ่ำของคุณกระซิบบอกกับเขาเบาๆว่า “นอนหลับฝันดี แล้วพรุ่งนี้เจอกันนะคะ” รับรองว่าคืนนั้นเขาต้องไม่เป็นอันหลับอันนอนและวิงวอนขอให้ถึงพรุ่งนี้เช้าเร็วๆเพื่อจะได้เจอคุณและได้อยู่ด้วยกันกับคุณอีกเป็นแน่ 4 วิธีนี้จะทำให้เขาต้องการคุณ…แต่เขาคงต้องรอจนกว่าคุณจะพร้อม แต่ข้อดีก็คือเขาจะคิดถึงคุณจนแทบรอเจอคุณในวันพรุ่งนี้ไม่ไหวน่ะสิคะ ที่มา : Woman in […]
1. อย่าขับรถเร็วเกินกว่าที่เทวดาประจำตัวของคุณบินทันเป็นอันขาด 2. จงวางแผนล่วงหน้า : ฝนยังไม่ตกหรอกนะตอนโนอาห์สร้างเรือน่ะ 3. การแก้แค้นไม่ทำให้เรารู้สึกดีขึ้น เหมือนกับดื่มน้ำทะเลเวลาหิวน้ำนั่นแหละ 4. ความหมายของความสุขขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณอยากให้มันเป็น 5. “อย่ากลัวความฝันของคุณ : มันง่ายกว่าที่คิด” 6. นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า ทุกๆ 4 คน จะมีคนหนึ่งที่สติเพี้ยนๆลองเช็คเพื่อนคุณสัก 3 คนสิ ถ้าทุกคนปกติดี ก็คุณน่ะแหละ 7. แบ่งปันรอยยิ้มของคุณให้กับทุกคน แต่ให้เก็บจุมพิตให้กับคนเพียงคนเดียว 8. บางครั้งวิธีช่วยที่ดีที่สุดที่คุณทำได้ก็คือ ผลักเขาแรงๆ(หมายถึงผลักดันให้เขาทำสิ่งที่ลังเลอยู่น่ะ) 9. น้ำตาจะให้คุณก็แค่ความเห็นอกเห็นใจ แต่เหงื่อจะทำให้คุณประสบความสำเร็จ 10. สิ่งที่ดีที่สุดในชีวิตนี้ไม่ใช่วัตถุ 11. มอบสองสิ่งให้กับลูกของคุณ อย่างหนึ่งคือรากฐานที่มั่นคง อีกอย่างก็คือ ปีกที่จะบินออกไปเอง 12.การออกกำลังกายที่ดีที่สุดสำหรับจิตใจคือการก้มลงแล้วช่วยคนอื่นให้ลุกขึ้น 13. คนคนหนึ่งอาจทำอะไรผิดพลาดได้หลายอย่างแต่มันจะกลายเป็นความพ่ายแพ้ไปจริงๆ เมื่อเขาเริ่มโยนความผิดไปให้คนอื่น 14. เพื่อนแท้คือคนที่เชื่อว่าคุณเป็นฟองไข่ที่สมบูรณ์แม้ว่าจริงๆแล้วคุณจะมีรอยร้าวไปแล้วครึ่งหนึ่ง 15. นี่คือวิธีที่จะรู้ว่าหน้าที่ของคุณบนโลกใบนี้จบสิ้นแล้วหรือยัง :ถ้าคุณยังมีชีวิตอยู่ มันก็ยังไม่จบ 16. ชีวิตเรียนรู้ได้จากการย้อนระลึกถึง แต่ชีวิตต้องก้าวไปข้างหน้า 17. […]
1. มีเวลาทำอย่างอื่นนอกจากดูหนังคุยโทรศัพท์ 2. มีเวลาอยู่กับเพื่อนมากขึ้น 3. กลับบ้านดึกก็ได้ไม่ต้องโทรรายงานใคร 4. ไม่ต้องทะเลาะกับใคร 5. ประหยัดค่าใช่จ่าย แบบว่าไม่ต้องไปเที่ยวไหน 6. ร้องเพลงคนไม่มีแฟนของพี่เบิร์ดได้อย่างสะใจ 7. ไม่ต้องคอยเอาใจคนอื่น 8. ไม่ต้องพบเพื่อนของแฟนที่เราไม่อยากรู้จัก 9. ไม่ต้องกลัวว่าใครจะมาแย่งแฟนเรา 10. มีคนคอยเป็นห่วงเยอะ (และคอยถามว่าทำไมไม่มีแฟน) 11. ไม่ต้องคอยหึงหวง 12. ไม่ต้องห่วงว่าเค้าจะสบายดีรึเปล่า 13. มีเวลาให้ตัวเองเต็มที่ 14. ไม่ต้องฟังคำว่า “อนาคตของเรา ” 15. ไม่ต้องออกหัก(อันนี้สำคัญมาก) 16. ไม่ต้องกังวลว่าแต่ละวันใส่ชุดอะไรถึงจะถูกใจเขา 17. ไปหาเพื่อนแต่งตัวแบบไหนก็ได้ 18. ไม่ต้องคอยเช็ค sms เผื่อว่าเขาส่งมาแล้ว ยังไม่ได้ส่งกลับ (เฮ้อ….เปลืองเงินปล่าวๆ) 19. อยากจีบสาวภานิชย์ก็ได้ไม่มีใครคอยตามประกบ 20. พ่อแม่จะรักเป็นพิเศษเพราะอยู่ติดบ้าน 21. ไม่ต้องเปลี่ยนตัวเองเพื่อเอาใจใคร 22. ไม่ต้องคิดมาก 23. มีทางเลือกให้กับชีวิตมากขึ้น 24. […]
มารู้จักความหมายของเลขประจำตัวประชาชนทั้ง 13 หลักกันดีกว่า หลักที่ 1 หมายถึงประเภทบุคคลซึ่งมี 8 ประเภท คือ ประเภทที่ 1 ได้แก่ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดภายในกำหนดเวลา (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2527) ประเภทที่ 2 ได้แก่ คนที่เกิดและมีสัญชาติไทย ได้แจ้งเกิดเกินกำหนดเวลา (ตั้งแต่ 1 มกราคม 2527) ประเภทที่ 3 ได้แก่ คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญประจำตัวคนต่างด้าว และมีที่อยู่ในทะเบียนบ้าน ในสมัยเริ่มแรก (1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2527) ประเภทที่ 4 ได้แก่ คนไทยและคนต่างด้าวที่มีใบสำคัญคนต่างด้าวแต่แจ้งย้ายเข้า โดยยังไม่มีเลขประจำตัวประชาชนในสมัยเริ่มแรก (1 มกราคม – 31 พฤษภาคม 2527) ประเภทที่ 5 ได้แก่ คนไทยที่ได้รับอนุมัติให้เพิ่มชื่อเข้าในทะเบียนบ้านในกรณีตกสำรวจหรือกรณีอื่น ๆ […]
นิยามของคนแต่ละกรุ๊ปเลือด O กวนตีน ชิล B โผงผาง จริงใจ A จุกจิก เนี๊ยบ AB ประหลาด ลึกลับ Group ‘O’ เริ่มจากรุ๊ปนี้ก่อนเลย คนกรุ๊ปโอไม่ต้องตกใจว่าทำไม เราเป็นคนที่มีนิสัยชิล มันไม่ได้เกิดจากคุณเอง เกิดจากเผ่าพันธ์ ยีนของคุณ กรุ๊ปโอมักจะชิลกับตนเองเสมอ มาสายมากถึงมากที่สุดเวลานัดกันกับคนอื่นอื่น โดนรบกวนได้ง่ายจากปัจจัยภายนอก เช่น อยากอาบน้ำร้อนก่อนในวัน ฝน ตกไม่งั้นไม่ออกจากบ้าน ขออ่านการ์ตูนก่อนอีกสิบหน้าจะจบแล้ว รอ ฝน มันซากว่านี้แล้วกันค่อยออกแม้จะไปอีกทีสายแล้ว ก็ไม่เป็นไร กรุ๊ปโอ เป็นพวกไม่มีไฟแล้วทำอะไรไม่ได้ จะนอนอยู่กับบ้านได้ทั้งวัน แต่ถ้าวันนึงมีความฝันที่ต้องทำ มีกิเลสที่ตัวเองต้องการ จะทำสุดชีวิตแบบถึงเช้าถึงเที่ยงคืนก็ทำได้ ไม่หลับไม่นอน ความรัก กรุ๊ปโอจะเป็นพวกรักนานๆ ไปเรื่อยๆไม่หวือหวา พวกกรุ๊ปโอ จะเป็นคนไว้ใจคนยาก แต่ถ้ารู้จักกันไปแล้วก็จะติดเพื่อน ติดแฟนอย่างแยกไม่ออก เวลากรุ๊ปโอมาเจอกับกรุ๊ปโอกันเองจะจูนยาก เพราะจะดูๆกันก่อน […]
เรื่องบนเตียง กับ ราศีเมษ (21 มีนาคม – 19 เมษายน) ในเรื่องของเซ็กซ์แล้ว ชาวเมษจะเปรียบเสมือนเสือที่ออกล่าเหยื่อเป็นอาหาร คือจะเสาะแสวงหาเพื่อให้ได้สิ่งที่ถูกใจสำหรับความสัมพันธ์ทางเพศแล้วชาวเมษจะเป็นคนเปิดเผยและพร้อมจะทำทุกอย่างเพื่อทำให้คนรักพอใจ เขา(หรือเธอ) ยกให้คุณจนหมดใจ ขอเพียงแค่คุณมีความจริงใจและรักอย่างแท้จริงเพราะถ้าคุณไม่สามารถทำให้เขาเชื่อใจได้ เขาจะระแวงและคอยกันท่าหรือหึงหวงคุณเสมอ อะไรที่ชาว ราศีเมษ ต้องการ ชาวเมษไม่ต้องการของขวัญแบบที่ดูหวานๆเช่นพวกดอกไม้ ของขวัญรูปหัวใจต่างๆเหล่านี้ไม่ใช่สิ่งที่เขา(หรือเธอ)ให้ความสำคัญเท่าใดนัก สิ่งที่เขาต้องการคือเวลาและกิจกรรมที่ทำร่วมกันมากกว่า ต้องการความเข้าใจและการกระทำที่ดีทั้งกายและใจ กิจกรรมที่น่าตื่นเต้นโลดโผน และการแสดงออกถึงความรักการสัมผัสและถ่ายทอดความรัก เช่น การหอมแก้ม การกอด การจูบบ้าง คือสิ่งที่ชาวเมษต้องการมากกว่าสิ่งใดๆ . . เรื่องบนเตียง กับ ราศีพฤษภ (20 เมษายน – 20พฤษภาคม) ชาวพฤษภเป็นอีกหนึ่งราศีที่มีเสน่ห์เย้ายวนใจมีเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามอย่างง่ายดาย เขา(หรือเธอ)จะใช้สิ่งเหล่านี้แหละเพื่อแสวงหาสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง สำหรับเขาการแสดงออกในความรักจะแสดงออกอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกลางวันหรือกลางคืนเป็นคนที่สร้างอารมณ์และความรู้สึกที่ดีในการอยู่ร่วมกัน เป็นคนที่มีความโรแมนติกเพราะเขารู้สึกว่าเซ็กซ์มาจากความรู้สึกข้างในที่เต็มไปด้วยความรัก ซึ่งเป็นสิ่งสวยงามในชีวิตเขา อะไรที่ชาว ราศีพฤษภ ต้องการ ชาวพฤษภต้องการใครสักคนที่หนักแน่นและมั่นคงที่จะทำให้ชีวิตของเขามีความสุขได้ต้องการคนที่ให้ทั้งความรัก&การดูแล และสิ่งของที่มีความหมายดีๆ ที่จะติดตรึงอยู่ในใจของชาววัวตลอดไป การดูแลให้ความอบอุ่นและความเชื่อมั่น คือวิธีที่เหมาะที่สุดที่จะปฏิบัติให้กับชาวพฤษภและก็เป็นสิ่งที่เขาต้องการ ชาวพฤษภเป็นคนที่พึ่งพาอาศัยได้และเป็นคนที่คอยดูแลเอาใจใส่สม่ำเสมอ หากใครต้องการเป็นคนที่โชคดีที่จะใช้ชีวิตในโลกอันสวยงามร่วมกับเขาได้ จะต้องใจเย็นและใช้เวลาในการค่อยๆบ่มเพาะความรักความรู้สึกในการพิชิตใจชาวพฤษภ […]