คนรวยสนใจมูลค่าทรัพย์สิน
คนจนสนใจแต่รายได้จากการทำงาน

จากเมล์ที่ได้รับ

——————————————————————————–
เครื่องวัดความมั่งคั่งที่แท้จริงคือมูลค่าทรัพย์สิน ไม่ใช่รายได้จากการทำงาน นี่คือความจริงที่ไม่มีวันเปลี่ยน มูลค่าทรัพย์สินคือมูลค่ารวมของทุกสิ่งที่คุณครอบครอง ซึ่งสามารถประเมินได้จากการรวมมูลค่าของทุกอย่างที่คุณเป็นเจ้าของ

มูลค่าทรัพย์สินคือการวัดความมั่งคั่งที่ดีที่สุด เพราะในกรณีที่จำเป็น ทรัพย์สินในครอบครองของคุณสามารถนำมาเปลี่ยนเป็นเงินสดได้

รายได้จากการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่ก็เป็นเพียงหนึ่งในสี่ปัจจัยที่กำหนดมูลค่าทรัพย์สินของคุณ ปัจจัยทั้งสี่มีดังนี้
1.รายได้
2.เงินเก็บ
3.การลงทุน
4.ชีวิตที่เรียบง่าย

รายได้มีอยู่สองรูปแบบคือ รายได้จากการทำงาน และรายได้งอกเงย

รายได้จากการทำงานคือเงินที่ได้มาจากการลงแรงทำงาน ซึ่งรวมถึงเงินค่าจ้างจากการทำงานวันต่อวัน หรือสำหรับผู้ที่มีธุรกิจส่วนตัว รายได้ส่วนนี้คือกำไรหรือรายได้จากการทำธุรกิจ รายได้จากการทำงานคือเงินที่คุณต้องเสียเวลาและแรงงานเพื่อให้ได้มา รายได้จากการทำงานเป็นสิ่งสำคัญเพราะถ้าไม่มีมันก็ไม่จำเป็นต้องพูดถึงตัวแปรที่เหลือทั้งสามด้าน

แต่แม้ว่ารายได้จากการทำงานจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่มันจะมีคุณค่าก็ต่อเมื่อเป็นส่วนหนึ่งของสมการมูลค่าทรัพย์สินเท่านั้น

รายได้งอกเงย คือ เงินที่คุณได้มาโดยไม่ต้องลงแรงทำงาน

เงินออมก็เป็นปัจจัยสำคัญเช่นกัน คุณอาจหาเงินมาได้ก้อนโต แต่ถ้าคุณไม่เก็บมันไว้บ้าง คุณก็จะไม่มีวันร่ำรวย หลายคนมีแผนผังการเงินไว้สำหรับถลุงเงินที่หามาได้แต่เพียงอย่างเดียว พวกเขาเลือกความพอใจชั่วขณะแทนความสมดุลในระยะยาว นักใช้เงินมีคติพจน์ประจำใจสามข้อ ข้อแรกคือ “มันก็แค่เงิน” ข้อสองคือ “ใช้ไป เดี๋ยวก็หาใหม่ได้” ข้อสามคือ “โทษที ตอนนี้ทำอะไรไม่ได้หรอก ฉันถังแตกอยู่”

เมื่อคุณเก็บสะสมเงินจากรายได้ได้จำนวนหนึ่ง คุณจะสามารถก้าวไปสู่ขั้นตอนต่อไปและทำให้เงินของคุณงอกเงยด้วยการลงทุน ยิ่งคุณลงทุนได้ทีมากเท่าไหร่ เงินของคุณก็จะงอกเงยและเพิ่มพูนมูลค่าทรัพย์สินได้มากขึ้นเท่านั้น

คนรวยทุ่มเวลาและพลังไปกับการเรียนรู้เรื่องการลงทุน พวกเขาภูมิใจในความเก่งกาจด้านการลงทุนของตัวเอง หรืออย่างน้อยก็จ้างนักลงทุนเก่งๆมาลงทุนแทน

ตัวแปรที่เรียกสี่เรียกว่า “วิถีชีวิตที่เรียบง่าย” มีความสอดคล้องกับการออมเงิน เมื่อคุณเลือกที่จะดำรงชีวิตในแบบที่ใช้เงินน้อยลง ค่าใช้จ่ายต่างๆก็จะลดลง คุณก็จะมีเงินออมไว้สำหรับการลงทุนมากขึ้น

คนจนและชนชั้นกลางส่วนใหญ่เล่นเกมการเงินด้วยล้อเพียงล้อเดียว พวกเขาเชื่อว่าหนทางสู่ความร่ำรวยคือการหาเงินให้ได้มากๆ แต่เพียงอย่างเดียว พวกเขาเชื่อเช่นนั้นเพราะพวกเขาไม่เคยไปถึงจุดที่มีรายได้สูง พวกเขาไม่เข้าใจกฎของพาร์คินสันซึ่งระบุว่า “ค่าใช้จ่ายมักเพิ่มเป็นสัดส่วนโดยตรงกับรายได้” เมื่อรายได้มากขึ้น รายจ่ายก็จะมากขึ้นเป็นเงาตามตัวแทบทุกครั้งไป นั่นคือสาเหตุที่คุณไม่สามารถร่ำรวยได้จากการมีรายได้เพิ่มขึ้นเพียงอย่างเดียว

จำไว้ว่าสิ่งที่คุณให้ความสนใจจะเพิ่มขยายผล เมื่อคุณจับตาดูมูลค่าทรัพย์สิน นั่นหมายความว่าคุณได้ให้ความสนใจกับมัน และเนื่องจากสิ่งที่คุณให้ความสนใจจะเพิ่มขยายผล มูลค่าทรัพย์สินของคุณก็จะเพิ่มพูนขึ้นด้วย