คนรวยเลือก “ทั้งสองทาง”
คนจนเลือก “ทางใดทางหนึ่ง”

จากเมล์ที่ได้รับ

——————————————————————————–
คนรวยอยู่ในโลกแห่งความพรั่งพร้อม คนจนอยู่ในโลกแห่งข้อจำกัด แน่นอน ทั้งสองต่างอยู่บนโลกใบเดียวกัน แต่ความแตกต่างนั้นอยู่ที่มุมมองของพวกเขา

คนจนและชนชั้นกลางส่วนใหญ่มาจากพื้นเพที่ยากลำบาก พวกเขาใช้ชีวิตโดยมีคำขวัญประจำใจว่า “ไม่มีอะไรที่เพียงพอสำหรับทุกคนบนโลกใบนี้หรอก และเป็นไปไม่ได้ที่ทุกคนจะมีพร้อมทุกอย่าง”

แต่ถึงคุณไม่อาจมีได้ “ทุกอย่าง” หรือทุกๆสิ่งบนโลกใบนี้ ผมก็เชื่อว่าคุณสามารถมี “ทุกอย่างที่คุณต้องการจริงๆ” ได้อย่างแน่นอน

คนรวยเข้าใจว่า ด้วยการใช้ความคิดสร้างสรรค์เพียงเล็กน้อย คุณย่อมสามารถคิดหาหนทางเพื่อให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดทั้งสองด้านแทบทุกครั้ง

คำถามสำคัญที่คุณต้องถามตัวเองก็คือ “ฉันจะมีทั้งสองอย่างได้อย่างไร?”

คำถามนี้จะเปลี่ยนชีวิตคุณจากชีวิตที่ขาดแคลนและเต็มไปด้วยข้อจำกัดไปสู่สรวงสวรรค์ที่เปี่ยมไปด้วยความเป็นไปได้และความอุดมสมบูรณ์

การคิดถึง “สองทางเลือก” มีความสำคัญมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องเงิน คนจนและชนชั้นกลางเชื่อว่าตนต้องเลือกระหว่างเงินและสิ่งอื่นๆในชีวิต ผลที่ตามมาคือ พวกเขาสรรหาข้ออ้างมาทำให้เงินกลายเป็นเรื่องสำคัญรองจากสิ่งอื่นๆ

ขอย้ำให้ชัดอีกครั้งว่าเงินเป็นสิ่งสำคัญ! การบอกว่าเงินไม่สำคัญเท่าสิ่งอื่นๆในชีวิตเป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ สำหรับคุณแล้ว อะไรสำคัญกว่ากันระหว่างแขนและขา? เป็นไปได้ไหมว่ามันอาจสำคัญทั้งสองอย่าง?

คนที่ร่ำรวยล้วนเข้าใจดีว่า คุณต้องเลือกทั้งสองอย่าง เหมือนที่คุณต้องมีทั้งแขนและขา นั่นคือ คุณต้องมีเงินและมีความสุขด้วย

ถ้าคุณต้องการมีชีวิตที่ปราศจากขีดจำกัด ไม่ว่าในสถานการณ์ใดก็ตาม จงปล่อยวางความคิดที่จะเลือกสิ่งใดสิ่งหนึ่ง และมุ่งมั่นกับความตั้งใจที่จะมี “ทั้งสองอย่าง”